Business

“อีโค่โมบิ” โซลูชันการเติบโตรายได้ที่ครอบคลุมสำหรับแบรนด์

Spread the love

“อีโค่โมบิ” โซลูชันการเติบโตรายได้ที่ครอบคลุมสำหรับแบรนด์

เวียดนามพร้อมก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการส่งเสริมการขยายตัวของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมูลค่าของตลาดอีคอมเมิร์ซในเวียดนามคาดว่า จะสูงถึง 1.47 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2567 การขยายตัวดังกล่าวไม่เพียงแต่ช่วยกระตุ้นการขายผ่านโซเชียลมีเดียเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้กับการตลาดแบบพันธมิตร (affiliate marketing) และ “อินฟลูเอนเซอร์ มาร์เก็ตติ้ง” ให้กับภาคธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ อีโค่โมบิ (Ecomobi) จึงก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มชั้นนำในวงการนี้ได้อย่างมั่นคง

ตลาดอีคอมเมิร์ซในเวียดนามขยายตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยข้อมูลจาก OpenGov Asia ระบุว่า ตลาดอีคอมเมิร์ซของเวียดนามมีอัตราการเติบโตต่อปีสูงถึง 16-30% ในช่วงปี 2562 – 2566 การขยายตัวของอีคอมเมิร์ซกระตุ้นให้ภาคธุรกิจต้องมองหาวิธีการใหม่ ๆ ในการทำตลาด โดยเฉพาะการตลาดผ่านทางอินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์ ทั้งนี้ ความจริงใจและการนำเสนอที่สามารถเข้าถึงผู้บริโภคเป็นรายบุคคลของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์ทำให้กลยุทธ์อินฟลูเอนเซอร์ มาร์เก็ตติ้ง กลายเป็นเครื่องมือการโปรโมตที่สำคัญ ดังนั้น ความท้าทายที่สำคัญของภาคธุรกิจคือการเฟ้นหาและร่วมงานกับอินฟลูเอนเซอร์และครีเอเตอร์ที่มีคุณภาพ

“อีโค่โมบิ” ผู้บุกเบิกแพลตฟอร์ม “ Influencer Performance Marketing” ช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

ด้วยประสบการณ์ด้าน ” Performance Marketing” มาเป็นเวลากว่า 10 ปี มีขยายเครือข่าย KOL (Key Opinion Leader) KOC (Key Opinion Consumer) และ Publisherต่าง ๆ ได้มากกว่า 700,000 ราย ครอบคลุม 5 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อีโค่โมบิจึงพร้อมทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมธุรกิจกับครีเอเตอร์ ตลอดจนนำเสนอเครื่องมือบริหารจัดการแคมเปญขนาดใหญ่ รวมถึงการวัดผลและรายงานผลอย่างครบวงจร

อีโค่โมบิได้รับรางวัล “Best Partner of the Year” จากช้อปปี้ (ประเทศไทย) และเป็น พาร์ทเนอร์ระดับกลยุทธ์ของลาซาด้า และยังเป็นบริษัทให้บริการที่แบรนด์ที่มีชื่อเสียงให้ความไว้วางใจ เช่น ลอรีอัล (L’Oreal) ยูนิลีเวอร์ (Unilever) และพีแอนด์จี (P&G) นอกจากนี้ อีโค่โมบิยังได้ร่วมมือกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำเช่น เทมู (Temu) อาลีบาบา (Alibaba) อาลีเอ็กซ์เพรส (Aliexpress) “ในอนาคต เราจะขยายธุรกิจไปทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชีย ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์รายใหญ่ ๆ ทั่วทั้งภูมิภาค” คุณ Do Kim Dung ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจอีโค่โมบิกล่าว

นอกจากการขยายบริการที่มีอยู่ อีโค่โมบิยังภูมิใจที่ได้ก้าวขึ้นมาเป็นพาร์ทเนอร์ MCN (Multi-Channel Network) กับติ๊กต๊อก (TikTok) และช้อปปี้ ซึ่งเปิดโอกาสให้อีโค่โมบิร่วมงานแบรนด์ต่าง ๆ ได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่การวางกลยุทธ์การตลาดที่ตอบโจทย์เฉพาะแบรนด์ การเฟ้นหา KOL ที่ใช่ การวัดประสิทธิผลแคมเปญ ไปจนถึงการผลักดันรายได้ให้พุ่งทะยาน

คว้าโอกาสในการตลาด

จากรายงานของ NielsenIQ พบว่าปี 2567 ถือเป็นปีทองของการไลฟ์สด โดยเฉลี่ยแล้วผู้ใช้ดูไลฟ์ขายของ 13 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และ 95% ของผู้ชมซื้อของผ่านการไลฟ์สดในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ไม่เพียงเท่านั้น มีไลฟ์สดจำนวนมากที่สามารถทำเงินได้สูงถึง 500,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อครั้งเลยทีเดียว

อีโค่โมบิเล็งเห็นถึงศักยภาพของตลาด จึงได้เปิดโซลูชันไลฟ์สตรีมมิ่งแบบครบวงจร ตั้งแต่การจัดสตูดิโอ จัดหาอุปกรณ์ที่ทันสมัย ไปจนถึงช่วยเฟ้นหาและร่วมงานกับ KOL และ KOC พร้อมกับทีมงานมืออาชีพ ทำให้ปัจจุบัน อีโค่โมบิสามารถดำเนินงานไลฟ์สดได้เฉลี่ย 3,800 ชั่วโมงต่อเดือน

ล่าสุด อีโค่โมบิประสบความสำเร็จอย่างงดงามในการไลฟ์สดเปิดตัวแบรนด์ลา โรช-โพเซย์ (La Roche Posay) บนแพลตฟอร์มติ๊กต๊อกของเวียดนาม โดยสามารถทำยอดขายรวม (GMV – Gross Merchandise Value) ได้เกือบ 800,000 ดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นหนึ่งในไลฟ์สดที่มี GMV สูงสุดบนติ๊กต๊อกในเดือนก.ค. 2567 นอกจากนี้ บนแพลตฟอร์มช้อปปี้ อีโค่โมบิยังติดอันดับท็อป 3 MCN ที่มียอดขายรวมผ่านการไลฟ์สดสูงสุดบนช้อปปี้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย

ขยายการให้บริการ พร้อมรักษามาตรฐานคุณภาพสูง

แม้ว่าอีโค่โมบิกำลังขยายการให้บริการอย่างรวดเร็วแต่ก็ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาประสิทธิภาพแคมเปญด้วยการสร้างทราฟฟิกที่มีคุณภาพสูง เพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI – Return of Investment) และวางแผนกลยุทธ์ระยะยาวให้กับธุรกิจ นอกจากนี้ อีโค่โมบิยังได้สร้างทีมสนับสนุนแบบครบวงจร เพื่อช่วยให้การเปิดตัวสินค้าใหม่เป็นไปอย่างราบรื่น ในขณะเดียวกันก็สามารถรับประกันในเรื่องการดูแลภาพลักษณ์และชื่อเสียงของแบรนด์ให้กับธุรกิจอีกด้วย


Spread the love