LifestyleTravel

เปิดประสบการณ์ดินเนอร์เหนือระดับ ท่ามกลางหมู่ดาว ประเทศนิวซีแลนด์

Spread the love

เปิดประสบการณ์ดินเนอร์เหนือระดับ ท่ามกลางหมู่ดาว ประเทศนิวซีแลนด์

Tourism New Zealand has created the ‘restaurant with the most stars’ to help champion its cuisine on the global stage, inviting 50 international taste-makers to put it to the test in Kura Tawhiti, Castle Hill, New Zealand, Friday, Aug. 9, 2024. (Double Exposure Photo/Jono Smit) USAGE: Unpaid only

คุณอาจเคยเห็นร้านอาหารที่ได้รับดาวมิชลินมากมาย แต่มันจะน่าตื่นเต้นกว่าไหม หากคุณได้มาสัมผัสกับการชิมเมนูอาหารชั้นเลิศท่ามกลางดาวนับพันล้านดวง

เพื่อเป็นการส่งเสริมและชูความเป็นเอกลักษณ์ของอาหารนิวซีแลนด์ เบน เบย์ลี (Ben Bayly) เชฟชั้นนำของนิวซีแลนด์ผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้บุกเบิกอาหารนิวซีแลนด์บนเวทีโลก ได้เปิดตัวร้านอาหารอย่าง Pou-o-kai เสิร์ฟประสบการณ์การรับประทานอาหารที่แตกต่างภายใต้ท้องฟ้าคูรา ทาวน์ฮีติ ปราสาทหิน Kura Tawhiti ยามค่ำคืนที่ถูกประดับประดาไปด้วยหมู่ดาวระยิบระยับมากมายบนเทือกเขาแอลป์ ในเกาะทางตอนใต้ของนิวซีแลนด์ ด้วยท้องฟ้าที่มืดสนิทและแสงออโรร่าแห่งขั้วโลกใต้อันสวยงามตระการตา ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่พร้อมมอบประสบการณ์ที่รวมความสวยงามของธรรมชาติและความอร่อยของอาหารแดนกีวี่เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว

ประสบการณ์อันน่าทึ่งนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของการท่องเที่ยวทางดาราศาสตร์ เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากขึ้นที่กำลังมองหาสถานที่ที่สามารถดื่มด่ำและเพลิดเพลินไปกับความงานอันน่าหลงใหลของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว นอกจากนี้ มลพิษทางแสงยังส่งผลกระทบต่อประชากรโลกมากกว่า 80% ดังนั้น นิวซีแลนด์จึงมีความมุ่งมั่นที่จะรักษาท้องฟ้าอันมืดสนิทตามธรรมชาติเอาไว้ ทำให้ที่นี่กลายเป็นหมุดหมายกำลังมาแรงสำหรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

ในปัจจุบัน นิวซีแลนด์กำลังมุ่งสู่การเป็น “ประเทศอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด” และยังมี “เขตอนุรักษ์ท้องฟ้ามืด” ภายในประเทศถึง 5 แห่งจากทั้งหมด 17 แห่งทั่วโลก ซึ่งความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์ความงามของท้องฟ้ายามค่ำคืนดังกล่าวนั้นได้รับการรับรองจากสมาคมพิทักษ์ความมืดแห่งท้องฟ้าสากล (International Dark-Sky Association)

นอกจากความสวยงามทางธรรมชาติแล้ว แขกที่ได้รับเชิญจะได้สัมผัสกับอาหารสุดพิเศษพร้อมดื่มด่ำกับหมู่ดาวระยิบระยับที่เรียงรายอยู่เต็มท้องฟ้ายามค่ำคืนอันงดงาม ควบคู่ไปกับการชิมเมนูอาหาร 6 คอร์สที่ถูกรังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถัน ด้วยการนำผลิตผลฤดูหนาวที่ดีที่สุดและวัตถุดิบท้องถิ่นอันสดใหม่ในการนำมาปรุงเป็นเมนูต่างๆ ซึ่งถือเป็นการเฉลิมฉลองและต้อนรับผู้มาเยือน (manuhiri) เกาะใต้แห่งนี้อย่างอบอุ่น

เรเน่ ดี มอนชี่ (René de Monchy) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการท่องเที่ยวนิวซีแลนด์ กล่าว “งานครั้งนี้ได้ถูกจัดขึ้นในช่วงฤดูหนาวของนิวซีแลนด์ โดยมีจุดประสงค์ที่จะเฉลิมฉลองให้กับประเทศ ในฐานะการเป็นจุดหมายที่มีความโดดเด่นทางด้านอาหาร และเป็นอีกจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ซึ่งเอกลักษณ์ของอาหารท้องถิ่นของนิวซีแลนด์นั้นมีต้นกำเนิดมาจากการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม (kaitiakitanga) และการต้อนรับอันแสนอบอุ่น (manaakitanga) นับเป็นการยกย่องทั้งสถานที่ที่อุดมสมบูรณ์ทางการเกษตรรวมถึงการแสดงออกของผู้คนได้อย่างดีเยี่ยม ที่พร้อมให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับวัฒนธรรมทางอาหารอันเป็นเอกลักษณ์และมีชีวิตชีวา”

โดยชื่อของร้านอาหาร Pou-o-Kai เป็นของขวัญจากไกล์ ทูอาฮูรีรี  (Ngāi Tuāhuriri) ชาวพื้นเมืองในพื้นที่ที่มอบให้แก่ร้าน เพื่อเป็นการชูความสัมพันธ์ระหว่างประวัติศาสตร์ทางธรรมชาติและความสำคัญทางวัฒนธรรมของภูมิภาคคูรา ทาวน์ฮีติ (Kura Tawhiti) (ปราสาทหิน, ณ เกาะใต้)

นอกจากนี้ มิชลินไกด์ยังได้นิยามร้านอาหารที่ได้รับรางวัลมิชลินระดับสามดาวว่าเป็น “ร้านอาหารยอดเยี่ยม และคุ้มค่าแก่การเดินทาง” เชฟเบน เบย์ลี (Ben Bayly) อธิบายต่อ “เราเชื่อมั่นว่า ไม่ว่าคุณจะเดินทางมาจากจุดไหนของโลก  อาหารนิวซีแลนด์ถือเป็นหนึ่งในประเภทอาหารชั้นเลิศและคุ้มค่าแก่การเดินทางเป็นอย่างยิ่ง”

เชฟเบน เบย์ลี (Ben Bayly) จะผลัดเปลี่ยนเมนูพิเศษอันแสนอร่อยจากร้านอาหารของเขาในนิวซีแลนด์ ได้แก่ Ahi, Aosta, Origine, Little Aosta และ The Bathhouse ที่ตั้งอยู่ในเมืองออกแลนด์ (Auckland), ควีนส์ทาวน์ (Queenstown) และ แอร์โรว์ทาวน์ (Arrowtown) ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม 2568


Spread the love