“มิโด” (MIDO) เปิดตัวเรือนเวลาดีไซน์ล่าสุดในคอลเลกชั่น “มัลติฟอร์ท ทีวี” (Multifort TV) กับรุ่นที่ชื่อว่า “มัลติฟอร์ท ทีวี 35” (Multifort TV 35) โดดเด่นด้วยตัวเรือนหน้าปัดรูปทรงทีวีคลาสสิกเพรียวบางขนาด 35 มม. ในเฉดสีโรสโกลด์สุดหรู

เติมเต็มความมั่นใจในทุกวัน ด้วยเรือนเวลาดีไซน์หรูจากแบรนด์ “มิโด” (MIDO) ที่ล่าสุดได้เปิดตัวนาฬิกาดีไซน์ใหม่เพิ่มเติมในคอลเลกชั่นมัลติฟอร์ท ทีวี (Multifort TV) กับรุ่นที่ชื่อว่า “มัลติฟอร์ท ทีวี 35” (Multifort TV 35) เรือนเวลาหน้าปัดรูปทรงทีวีสุดคลาสสิกในเฉดสีโรสโกลด์สุดหรู มาในขนาด 35 มิลลิเมตร พร้อมขนาดตัวเรือนที่บางลงด้วยกลไกคาลิเบอร์ 72 (Caliber 72) ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องความบาง แต่ทรงพลัง พร้อมให้เหล่าหนุ่มสาวได้เลือกสรรพร้อมกันแล้ววันนี้

“มิโด” (MIDO) แบรนด์นาฬิกาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี นับตั้งแต่ จอร์จ แชแรน (GEORGES SCHAEREN) เริ่มก่อตั้งบริษัท MIDO G.SCHAEREN & CO. AG ขึ้นที่เมืองโซโลธูร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ ค.ศ. 1918 ภายใต้ปรัชญาของการสร้างสรรค์แบรนด์ให้อยู่เหนือกาลเวลาด้วยแนวคิดการออกแบบที่ร่วมสมัย ผ่านการคัดเลือกวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่มีความหรูหรา ทนทาน และยังคงไว้ซึ่งฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน

สำหรับเรือนเวลาดีไซน์ล่าสุด “มัลติฟอร์ท ทีวี 35” (Multifort TV 35) ทางแบรนด์ “มิโด” (MIDO) ได้นำเอาเอกลักษณ์ของเรือนเวลาดีไซน์สุดคลาสสิกที่นับได้ว่าเป็นมรดกของแบรนด์ ด้วยตัวเรือนที่มีกรอบรูปทรงสี่เหลี่ยมและโค้งมน สะท้อนถึงดีไซน์ของโทรทัศน์สไตล์วินเทจ ซึ่งมิโดได้ใช้กรอบเรือนเวลารูปทรงทีวีนี้มานับตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1973, 1980, 2000 และกลับมาอีกครั้งในปี 2023 ที่ผ่านมากับการเปิดตัวเรือนเวลา มัลติฟอร์ท ทีวี บิ๊ก เดท (Multifort TV Big Date) ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก เนื่องจากดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ผสานสไตล์ความคลาสสิกและความสปอร์ตเอาไว้ได้อย่างลงตัว โดยต่อยอดจากรุ่นยอดนิยมอย่าง มัลติฟอร์ต ทีวี บิ๊ก เดท (Multifort TV Big Date) สีโรสโกลด์ ที่มาพร้อมสายยางสีช๊อกโกแลต   โดยเรือนเวลาแห่งตำนานนี้ยังได้ถูกนำมาต่อยอดถ่ายทอดสู่รุ่น มัลติฟอร์ท ทีวี 35 (Multifort TV 35) ด้วยตัวเรือนและสายสแตนเลสสตีลเคลือบ PVD สีโรสโกลด์ มาในขนาดที่มีความพอดีกับข้อมือ คือ 35 มม. x 34.2 มม. เพิ่มความสบายและความบางเบาขณะสวมใส่ ด้านหน้าปัดโดดเด่นด้วยดีไซน์ไล่เฉดสีน้ำตาลช็อกโกแลตไปจนเป็นสีดำเข้มบริเวณขอบ สร้างความคอนทราสต์ที่ดูงดงามและเข้ากันได้เป็นอย่างดี เพิ่มความหรูหราด้วยการตกแต่งเพชรแท้จำนวน 8 เม็ด บริเวณหมุดนาฬิกา ตำแหน่ง 1, 2, 4, 5, 7, 8, 10 และ 11 นาฬิกา พร้อมการเคลือบสารเรืองแสงซูเปอร์ ลูมิโนวา (Super-LumiNova®) บนเข็มนาฬิกาทั้งเข็มชั่วโมงและนาที และหมุดบอกเวลาบริเวณตำแหน่ง 3, 6 และ 9 นาฬิกา ในโทนสีขาวที่จะเปลี่ยนเป็นแสงสีน้ำเงิน-เขียวเมื่อใช้อ่านค่าในเวลากลางคืนหรือบริเวณแสงน้อย ตรงตำแหน่ง 12 นาฬิกา ถูกแทนที่ด้วยช่องบอกวันที่ (Date) พร้อมครอบทับหน้าปัดตัวเรือนด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์เคลือบกันแสงสะท้อนทั้ง 2 ด้าน นาฬิการุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยกลไกคาลิเบอร์ 72 (Caliber 72) ซึ่งเป็นกลไกที่ยอดเยี่ยม สามารถสำรองพลังงานได้ถึง 72 ชั่วโมง พร้อมบาลานซ์สปริงจากนิวาครอง (Nivachron™) ช่วยเสริมความแข็งแรงทนทานต่อแรงกระแทกและแรงสนามแม่เหล็กได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับความสามารถในการกันน้ำลึกได้ถึง 10 บาร์ หรือ 100 เมตร

พร้อมกันนี้ในรุ่น “มัลติฟอร์ท ทีวี 35” (Multifort TV 35) ยังมาพร้อมกับอีก 2 ดีไซน์ย่อย โดยทั้งสองรุ่นจะมีตัวเรือนและสายนาฬิกาผลิตจากสแตนเลสสตีล ตกแต่งรายละเอียดบนหน้าปัดด้วยลายขีดขนานอันเป็นเอกลักษณ์ โดยหนึ่งรุ่นจะตกแต่งด้วยการไล่เฉดสีน้ำเงินไปจนเป็นสีดำเข้มบริเวณขอบ และอีกหนึ่งรุ่นจะเป็นการตกแต่งด้วยการไล่เฉดสีจากโทนสีสว่างไปจนเป็นสีดำเข้มบริเวณขอบสร้างมิติอันน่าหลงใหล

ด้านแบรนด์ “มิโด” (MIDO) ยังได้แนะทริคการเลือกนาฬิกาเพื่อเสริมลุคในวันออกงานสำคัญ เพราะนาฬิกาไม่เพียงแค่บอกเวลา หากแต่ยังสะท้อนถึงสไตล์และบุคลิกภาพของเราอีกด้วย โดยเคล็ดลับในการเลือกนาฬิกาให้ดูโดดเด่นสามารถทำได้ดังนี้

• เลือกดีไซน์ที่เข้ากับชุด: หากสวมชุดทางการ ควรเลือกนาฬิกาที่มีดีไซน์เรียบหรู เช่น ตัวเรือนและสายสแตนเลสสตีลหรือสายหนังคุณภาพดี
• วัสดุคุณภาพ: นาฬิกาที่ทำจากวัสดุที่มีคุณภาพ เช่น สแตนเลสสตีล, ทองคำ หรือหนังแท้ จะช่วยให้ดูมีระดับและยังมีทนทานต่อการใช้งานด้วย
• พิจารณาขนาด: ขนาดของนาฬิกาควรเหมาะกับข้อมือ หากข้อมือเล็ก ควรเลือกนาฬิกาที่มีขนาดเล็กและไม่หนาจนเกินไป เพราะขนาดที่พอดีจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวยามสวมใส่
• เลือกสีที่เข้ากัน: สีของนาฬิกาควรเข้ากับสีของชุดและเครื่องประดับอื่นๆ เช่น หากชุดมีโทนสีอบอุ่น อาทิ น้ำตาลหรือทอง นาฬิกาสีโรสโกลด์เป็นตัวเลือกที่เหมาะเป็นอย่างมาก
• รายละเอียดและการตกแต่ง: เลือกนาฬิกาที่มีการตกแต่งพิเศษ เช่น การประดับด้วยเพชรหรือการตกแต่งที่ละเอียดอ่อน ซึ่งสามารถเพิ่มความน่าสนใจให้กับนาฬิกา
• ฟังก์ชันการใช้งาน: หากงานมีลักษณะพิเศษ เช่น งานกลางคืนที่ต้องการการมองเห็นที่ดี ควรเลือกนาฬิกาที่มีฟังก์ชันเคลือบเรืองแสงหรือหน้าปัดที่ชัดเจน

ร่วมเลือกสรรเรือนเวลาเติมเต็มลุคให้โดดเด่น ด้วยนาฬิกาดีไซน์หรูในขนาดที่พอดีกับข้อมือจากคอลเลกชั่น“มัลติฟอร์ท ทีวี 35” (Multifort TV 35) นาฬิกาคุณภาพมาตรฐานตามแบบฉบับ Swiss made ได้แล้ววันนี้ที่เคาน์เตอร์ “มิโด” (MIDO) เซ็นทรัล, โรบินสัน, เดอะมอลล์ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือผ่านช่องทางออนไลน์ MIDO Official Store ใน Shopee และ Lazada และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติ่มได้ที่เว็บไซต์  www.midowatches.com Facebook: Mido Watches และ LINE Official Account: @midothailand หรือติดต่อได้ที่เบอร์ 02-610-0200