ซีเค พาวเวอร์ ร่วมกับ ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ จัดโครงการ “ส่งต่อพลังคิด(ส์) เพื่อโลกที่ยั่งยืน”
ซีเค พาวเวอร์ ร่วมกับ ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ จัดโครงการ “ส่งต่อพลังคิด(ส์) เพื่อโลกที่ยั่งยืน” สร้างความรู้ด้านพลังงานหมุนเวียนสู่เยาวชนไทย
- นำร่องติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าให้กับ 2 โรงเรียนรอบโรงไฟฟ้าในเครือ ควบคู่การช่วยจัดตั้งกองทุนพลังงานหมุนเวียน เพื่อบํารุงรักษาอุปกรณ์ในระยะยาว
- จัดอาสาสมัครซีเค พาวเวอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมการผลิตไฟฟ้า ถ่ายทอดความรู้ ด้านพลังงานหมุนเวียน และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับครูผู้นำการเปลี่ยนแปลง มูลนิธิ ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ ให้แก่นักเรียนและชุมชนกว่า 200 คน
บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower (ชื่อย่อหลักทรัพย์: CKP) หนึ่งในผู้นำในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคและมีคาร์บอนฟุตพรินต์ที่ต่ำที่สุดรายหนึ่ง ร่วมกับ “มูลนิธิ ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์” (Teach For Thailand) ภายใต้โครงการ “ส่งต่อพลังคิด(ส์) เพื่อโลกที่ยั่งยืน” ถ่ายทอดความรู้ด้านพลังงานหมุนเวียนสู่เยาวชนไทย พร้อมติดตั้งโซลาร์เซลล์ให้ 2 โรงเรียนรอบโรงไฟฟ้าในเครือซีเค พาวเวอร์ ได้แก่ โรงเรียนอุดมศีลวิทยา จ.พระนครศรีอยุธยา และโรงเรียนปักธงชัยชุณหะวัณวิทยาคาร จ.นครราชสีมา รวมกำลังการผลิตติดตั้ง 18,700 วัตต์ และเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยโรงเรียนจัดตั้งกองทุนพลังงานหมุนเวียน สำหรับเป็นทุนให้เยาวชนและชุมชนได้ใช้บํารุงรักษาอุปกรณ์ในระยะยาว เป็นต้นแบบส่งต่อความรู้และโครงการด้านพลังงานหมุนเวียนสู่ชุมชนอย่างยั่งยืน
นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ซีเค พาวเวอร์ ดำเนินโครงการส่งต่อพลังคิด(ส์) เพื่อโลกที่ยั่งยืน ร่วมกับ ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ โดยมีจุดมุ่งหมายให้เยาวชนไทยและชุมชนมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องพลังงานหมุนเวียนอย่างยั่งยืน รวมทั้งติดตั้งโซลาร์เซลล์ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้โรงเรียนอุดมศีลวิทยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำหรับใช้ไฟฟ้าในระบบปั๊มน้ำดูแลพื้นที่สีเขียว 25 ไร่ และติดตั้งโซลาร์เซลล์ให้โรงเรียนปักธงชัยชุณหะวัณวิทยาคาร จังหวัดนครราชสีมา เพื่อลดค่าไฟภายในโรงเรียน รวมกำลังการผลิตติดตั้งทั้งสองโรงเรียนเข้าถึงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 18,700 วัตต์ เทียบเท่าการหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 13,721 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี (เทียบเท่าการปลูกต้นไม้เพื่อดูดซับคาร์บอนถึง 1,444 ต้น) นอกจากนี้ ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งให้โรงเรียนจัดตั้งกองทุนพลังงานหมุนเวียน โรงเรียนละ 1 กองทุน เพื่อให้เยาวชน คุณครู รวมถึงชุมชนรอบโรงเรียน มีทุนและมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาอุปกรณ์และแผงโซลาร์เซลล์ โดยมีผู้เชี่ยวชาญวิศวกรรมของบริษัทลงพื้นที่ไปสอนวิธีการใช้งานที่ถูกต้องเพื่อประสิทธิภาพการใช้งานในระยะยาว”
“โครงการพลังคิด(ส์) เพื่อโลกที่ยั่งยืน มีอาสาสมัครที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมการผลิตไฟฟ้าและพนักงานจากหลายแผนกของบริษัทในเครือ ซีเค พาวเวอร์ ร่วมกับครูผู้นำการเปลี่ยนแปลง ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ ไปถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับเรื่องพลังงานหมุนเวียน และการอนุรักษ์ ปกป้อง ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้กับกลุ่มยุวพลังงานหมุนเวียนจำนวน 236 คน ในระดับประถมและมัธยมของทั้งสองโรงเรียน เพื่อให้เยาวชนมีองค์ความรู้และสามารถถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นในโรงเรียนและสู่ชุมชนโดยรอบ เป็นไปตามกรอบการดำเนินงานสร้างคุณค่าสู่สังคม 2565 – 2569 หรือ CSR Strategy Framework 2022 – 2026 เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนเรื่องความยั่งยืนในมิติสังคม และสิ่งแวดล้อม” นายธนวัฒน์ กล่าวเสริม
นายสุวัฒน์ หลีเหม หัวหน้าฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ มูลนิธิ ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ กล่าวว่า“ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ เป็นมูลนิธิฯ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตของนักเรียนควบคู่กับการลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษาในประเทศไทย การร่วมมือกับซีเค พาวเวอร์ เป็นหนึ่งในกำลังที่สำคัญยิ่งสำหรับมูลนิธิฯ ในการสร้างคุณครูผู้นำการเปลี่ยนแปลง โดยเราได้นำความรู้จากอาสาสมัครซีเค พาวเวอร์ ที่ทำโมเดลระบบพลังงานหมุนเวียนของโรงเรียน และความรู้ด้านการอนุรักษ์ ปกป้อง ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มาออกแบบหลักสูตรและบูรณาการการเรียนการสอนในอนาคตผ่านรายวิชาต่างๆ”
“ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ เชื่อมั่นว่า หลังจากร่วมมือกับซีเค พาวเวอร์ อย่างต่อเนื่อง ภายในปี พ.ศ. 2569 มูลนิธิฯ จะสามารถสร้างคุณครูผู้นำการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นเป็น 120 คน และเข้าถึงนักเรียนที่ด้อยโอกาสทางการศึกษาจำนวน 100,000 คน ใน 175 โรงเรียนทั่วประเทศ โดยคุณครูฯ ได้เข้าไปสร้างการเปลี่ยนแปลงร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียในระบบนิเวศของนักเรียน ผ่านการเรียนการสอนและรณรงค์ให้ความรู้เรื่องพลังงานหมุนเวียนและการอนุรักษ์ ปกป้อง ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมให้นักเรียน ชุมชน และสังคม เกิดการตระหนักรู้และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีจากการบ่มเพาะความรู้สู่การลงมือปฏิบัติอย่างแท้จริง” นายสุวัฒน์ กล่าวตอนท้าย
