Invitrace สตาร์ทอัพนวัตกรรมทางการแพทย์ พร้อมโกอินเตอร์
Invitrace สตาร์ทอัพนวัตกรรมทางการแพทย์ พร้อมโกอินเตอร์เติบโตเท่าตัว เร่งเข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่าน Funding Societies แพลตฟอร์มการเงินดิจิทัลครบวงจรเพื่อ SME
Invitrace ผู้ให้บริการ Healthcare Transformation ด้วยนวัตกรรม AI Digital Biomarker Platform ผู้มาปฏิวัติวงการแพทย์ออนไลน์ด้วยการนำข้อมูลสุขภาพของลูกค้า ผสมรวมกับความสามารถของ A.I. ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานและให้บริการด้านสุขภาพเพิ่มสูงขึ้น จนทำให้ Invitrace ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ากลุ่มโรงพยาบาลและองค์กรระดับโลก พร้อมเร่งขยายธุรกิจและสร้างความแข็งแรงด้าน Operation เพื่อสร้างการเติบโตให้มากขึ้นอีก 200-300% รองรับความต้องการของลูกค้าขนาดใหญ่ที่กำลังจะมาถึง จึงเล็งเห็นความสำคัญของสินเชื่อหมุนเวียนจากลูกหนี้การค้า (Invoice Financing) จาก Funding Societies ซึ่งพัฒนามาเพื่อ SME โดยเฉพาะเพื่อนำไปวางแผนเติมเต็มงบการเงิน การลงทุน และขยายธุรกิจให้เติบโตและแข็งแกร่งขึ้น
นาย อภิวัฒน์ เฟื่องฟู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินไวเทรส จำกัด เปิดเผยว่า Invitrace เกิดขึ้นเพราะเล็งเห็นถึงปัญหาวิกฤตบุคลากรทางการแพทย์ขาดแคลนในอุตสาหกรรม Healthcare ส่งผลให้ประสิทธิภาพของบุคลากรและคุณภาพการให้บริการของโรงพยาบาลลดลง จึงมองว่าเทคโนโลยีด้านดิจิทัลสามารถนำข้อมูลประเภทใหม่ที่เกิดขึ้นอย่าง Digital Biomarker อาทิ ข้อมูลบ่งชี้ดัชนีทางชีวภาพแบบดิจิทัล ในชีวิตประจำวัน เช่น ข้อมูลก้าวเดิน, ข้อมูลการนอน, ข้อมูลความเครียด เป็นต้น ผสมรวมกับความสามารถของ A.I. เพื่อทำให้ประสิทธิภาพการทำงานและให้บริการด้านสุขภาพเพิ่มสูงขึ้น
จากการวิเคราะห์และแปลผลข้อมูลที่เป็นประโยชน์และสามารถใช้งานได้จริง ระบบของ Invitrace จะแสดงให้เห็นรูปแบบ และแนวโน้มของสภาวะสุขภาพ ทั้งรายบุคคล หรือแบบภาพรวมของประชากร สามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ด้วยข้อมูลทางการแพทย์ เพื่อชี้ให้เห็นความเสี่ยงที่จะเกิดโรค และได้รับการแจ้งเตือน เพื่อที่จะหาทางป้องกัน หรือเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลให้ทันท่วงที โดยข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ให้บริการด้านสุขภาพ มอบการรักษาที่ดีที่สุดแก่ผู้ป่วยแต่ละรายในเวลาที่เหมาะสม ทำให้ Invitrace ได้รับความไว้วางใจให้เข้าไปดูแล และให้บริการลูกค้ากลุ่มโรงพยาบาลและองค์กรระดับโลกมากมาย พร้อมเป็นสตาร์ทอัพสัญชาติไทยที่ตั้งเป้าหมายไปตลาด International
“Business Model ของ Invitrace เป็นการให้เช่าแพลตฟอร์ม (SaaS: Software as a Service) รวมถึงการประยุกต์และปรับเปลี่ยนโปรแกรมต่างๆ (Tailored-made) ให้เหมาะกับองค์กร Enterprise แต่ละองค์กร เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการทำ Healthcare Transformation ซึ่งเป็นจุดแข็งของเราที่สามารถความเข้าใจในข้อมูลและการทำงานเชิงลึกในอุตสาหกรรม Healthcare ที่มีความเฉพาะตัวสูง รวมถึงการออกแบบ AI Building-Block Platform ที่สามารถปรับเข้าหาลูกค้า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของโรงพยาบาลและองค์กรต่าง ๆ ได้อย่างดี”
ทั้งนี้ บริษัท Invitrace มีการเติบโตที่รวดเร็วและก้าวกระโดด เนื่องจากสามารถสร้าง First Success Story ในองค์กรขนาดใหญ่ซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลก โดยเติบโตอย่างต่อเนื่องได้ถึงปีละ 200-300% ส่งผลให้บริษัทมองไกลถึงการเติบโตแบบก้าวกระโดด ด้วยการขยายและสร้างการแข็งแรงด้าน Operation เพื่อสร้างการเติบโตให้มากขึ้นอีกเท่าตัว รองรับความต้องการของลูกค้าขนาดใหญ่ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ จึงจำเป็นต้องวางแผนการลงทุน โดยเฉพาะในส่วนของการลงทุนขยายในส่วนของปฎิบัติการ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหาเครื่องมือ อุปกรณ์ ตลอดจนขยายทีมทำงานในกลุ่ม High Skill ให้พร้อมรับกับจำนวนลูกค้าที่เข้ามา เพื่อให้บริษัทมีก้าวเดินที่สมดุลและมั่นคงที่สุด
นั่นจึงเป็นที่มาของการหาพาร์ทเนอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งให้บริการ Financial Tools และเข้าใจในการเติบโตของบริษัทสตาร์ทอัพเป็นอย่างดี ซึ่ง Funding Societies แพลตฟอร์มการเงินดิจิทัลแบบครบวงจรสำหรับธุรกิจ SME ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ภายใต้การบริหารของ FS Capital Co., Ltd. ที่เชี่ยวชาญในการให้กู้ยืมโดยตรงแก่ผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก) สามารถตอบสนองความต้องการทางการเงินที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถตอบโจทย์ในแต่ละข้อของ Invitrace ได้เป็นอย่างดี
นางสาว เอื้ออารีย์ อัจฉริยบุญ Country Head ประจำ Funding Societies ประเทศไทย กล่าวต่อว่า Funding Societies ตระหนักถึงความต้องการของ Invitrace จึงนำเสนอสินเชื่อหมุนเวียนจากลูกหนี้การค้า (Invoice Financing) ซึ่งเป็นบริการเงินทุนธุรกิจ SME ในรูปแบบสินเชื่อที่ธุรกิจสามารถนำใบแจ้งหนี้มาเบิกเงินทุนหมุนเวียนล่วงหน้าได้ เพื่อนำไปเพิ่มสภาพคล่องและสนับสนุนงานใหม่ ๆ
“ขั้นตอนการรับบริการ Invoice Financing นั้น ผู้ประกอบการสามารถใช้เอกสารใบแจ้งหนี้พร้อมเครดิตเทอม 30-120 วัน ที่ทำไว้กับคู่ค้า ครอบคลุมทั้งภาคเอกชน รัฐบาล และรัฐวิสาหกิจ มายื่นกู้เพื่อรับเงินสดทันที ซึ่งสามารถรับวงเงินได้ถึง 90% ของมูลค่าใบแจ้งหนี้ และเมื่อถึงวันครบกำหนดของใบแจ้งหนี้ คู่ค้าจะชำระเงินโดยตรงกับผู้ให้กู้เอง จากนั้นผู้ให้กู้จะหักดอกเบี้ยและเงินต้นและคืนเงินส่วนที่เหลือให้กับผู้ประกอบการ หรือในอีกรูปแบบหนึ่งบริษัท SME สามารถนำเงินมาคืนแก่ผู้ให้กู้ได้เช่นกัน ถือเป็นการสร้าง Financial Ecosystem ที่สมบูรณ์แบบ”
นางสาว เอื้ออารีย์ อธิบายต่อว่า ผู้ประกอบการจะได้รับประโยชน์ทางตรง ในการเพิ่มกระแสเงินสด ทำให้สามารถนำเงินไปวางแผนเติมเต็มงบการเงิน การลงทุน และขยายธุรกิจได้ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดความกังวลจากการเข้าถึงสินเชื่อจากสถาบันแบบดั้งเดิม และเพิ่มทางเลือกที่สะดวกสบายกว่าสำหรับ SME รายใหม่ ซึ่งยังไม่มีประวัติการกู้ยืม หรือไม่มีความพร้อมทางประวัติทางการเงินที่จำเป็นต้องขอใช้สินเชื่อที่ธนาคาร หรือไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน รวมทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงจากเงินกู้นอกระบบที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยที่สูงเกินไป หรือเงินสินเชื่อที่ไม่ตรงวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ เช่น การถอนเงินสดจากบัตรเครดิตมาเพิ่มสภาพคล่องทางธุรกิจ ทำให้ธุรกิจต้องสะดุดหรือเติบโตไม่ได้ดีเท่าที่ควร
Funding Societies พร้อมทำหน้าที่ช่วย SME ก้าวผ่านทุกความท้าทายทางการเงิน ควบคู่ไปกับการหาแนวทางส่งเสริมโอกาสการเติบโตของธุรกิจ ผ่านผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ ที่ได้รับการพัฒนามาโดยเฉพาะเพื่อมุ่งตอบโจทย์ความต้องการของ SME ไทย พร้อมทั้งมุ่งมั่นสนับสนุน SME ไทยทุก ๆ ฝ่าย พร้อมที่จะก้าวเป็น Smart SME เต็มตัว สำหรับธุรกิจ SME ที่มีความสนใจ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.fundingsocieties.co.th