ExhibitionLifestyle

นิทรรศการ Déjà vu: Buddha is Hiding

Spread the love

Déjà vu: Buddha is Hiding

โดย นที อุตฤทธิ์

ภัณฑารักษ์: จอห์น ตง (John Tung)

28 กันยายน — 1 ธันวาคม 2567

STPI Creative Workshop & Gallery, Singapore

STPI – Creative Workshop & Gallery ภูมิใจนำเสนอนิทรรศการ Déjà vu: Buddha is Hiding นิทรรศการที่สำรวจถึงประเด็นการล่าอาณานิคมผ่านงานศิลปะโดย นที อุตฤทธิ์ ศิลปินร่วมสมัยชั้นนำของไทย จัดแสดงแล้วตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน ถึง 1 ธันวาคม 2567 นิทรรศการนี้ประกอบด้วยผลงานมากกว่า 40 ชิ้น คิวเรทโดย จอห์น ตง ภัณฑารักษ์ผู้ทรงคุณวุฒิจากสิงคโปร์ ซึ่งมีประสบการณ์มากมายจากการดูแลงาน S.E.A. Focus (2024) และ Singapore Biennale (2016 และ 2019)

นิทรรศการนี้เป็นบทสรุปของซีรีส์ Déjà vu ที่เริ่มแสดงเมื่อต้นในปี 2562ที่ผ่านมา โดยนทีได้จินตนาการสมมุติถึงการเดินทางของพระพุทธเจ้าไปสู่โลกตะวันตก สำรวจประเด็นเกี่ยวกับอัตลักษณ์และอิทธิพลของการล่าอาณานิคม โดยการผสมผสานภาพจากโลกตะวันออกและตะวันตก ผ่านผลงานพิมพ์และกระดาษที่สร้างสรรค์ร่วมกับ STPI

ผลงานที่โดดเด่นในนิทรรศการนี้รวมถึง BUDDHA PALAZZO (a.m.) (2024) และ BUDDHA PALAZZO (p.m.) (2024) ซึ่งนำเสนอภาพอาคารเดียวกันในมุมมองที่ต่างกันในเวลากลางวันและกลางคืน สะท้อนการศึกษาของเขาเกี่ยวกับการเชื่อมโยงของอุดมการณ์ตะวันออกและตะวันตก ผลงานชิ้นนี้มีขนาดใหญ่และซับซ้อนในการพิมพ์ โดยทำบนผืนผ้าใบที่นทีทาสีด้วยมือ สร้างสรรค์องค์ประกอบที่มีพื้นผิวสวยงามและทรงพลัง

ด้วยกระดาษที่ผลิตในโรงผลิตของ STPI นทีได้นำเสนอวิธีการแสดงออกใหม่ ๆ ในสื่อสร้างสรรค์ โดยสร้างประติมากรรมชุดที่มีลักษณะเป็นชิ้นส่วนของรูปปั้น ซึ่งประกอบด้วยผลงาน เช่น TORSO (2024), UTOPIA (2024), ARCHETYPE (2024), APOLLO 14 (2024) เป็นต้น ผลงานเหล่านี้เป็นรูปทรงกายวิภาคและรูปทรงเครื่องนุ่งห่มที่เชื่อมโยงถึงรูปปั้นพระพุทธเจ้าโบราณ พร้อมการเพิ่มรายละเอียดกราฟฟิตี้ในบางส่วนของรูปปั้น นทีเล่นกับสัญลักษณ์ของการลบเลือนที่ผิดกฎหมาย มองผ่านเลนส์ของลัทธิล่าอาณานิคมยุโรปและการปล้นสะดมวัตถุทางวัฒนธรรมอย่างไม่ละอาย

“ผลงานของอุตฤทธิ์กลายเป็น ‘ความจริง’ ใหม่ ที่ปรับเปลี่ยนความเข้าใจเกี่ยวกับบริบทดั้งเดิม ผ่านมุมมองของภาษาและวัฒนธรรมที่แตกต่าง ด้วยซีรีส์นี้ที่สร้างสรรค์ร่วมกับ STPI Creative Workshop เขาเชิญชวนผู้ชมให้ค้นพบเรื่องราวและประวัติศาสตร์ของตะวันออกที่มักถูกมองข้าม เพื่อสานสร้างมุมมองที่ชัดเจนของโลกให้แก่เราเอง”

– จอห์น ตง, ภัณฑารักษ์

ในนิทรรศการ Déjà vu: Buddha is Hiding นทีได้เน้นบทบาทของเขาในฐานะเสียงสำคัญในวงการศิลปะภูมิภาค ปิดท้ายซีรีส์ Déjà vu ด้วยการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับอิทธิพลครอบงำของโลกตะวันตกในประวัติศาสตร์ศิลปะ เทียบเคียงกับภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นิทรรศการเดี่ยวของผลงานอุตฤทธิ์จะจัดขึ้นพร้อมกันโดย Richard Koh Fine Art ที่ The Private Museum สิงคโปร์ ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 2567 และเมื่อต้นปีนี้ นทียังได้ร่วมแสดงในนิทรรศการกลุ่ม The Spirits of Maritime Crossing ซึ่งเป็นงานคู่ขนานของ Venice Biennale ครั้งที่ 60 ที่เน้นประเด็นเรื่องการพลัดถิ่น ลัทธิล่าอาณานิคม และการผสมผสานวัฒนธรรมหลากหลายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ด้วยความร่วมมือกับทีม Creative Workshop ของ STPI ที่มีทักษะสูงในด้านวัสดุพิมพ์และกระดาษ ได้กลายมาเป็นจุดเด่นในการนำเสนอมิติใหม่แห่งความคิดสร้างสรรค์ในแนวทางศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ ศิลปินร่วมสมัยที่มีชื่อเสียง อาทิ พินรี สัณฑ์พิทักษ์ เมลาตี เซอร์โยดาร์โม (Melati Suryodarmo) ดิน คิว เล (Dinh Q. Lê) และ มานูเอล โอแคมโป (Manuel Ocampo) รวมถึงศิลปินท่านอื่น ๆ ได้เติบโตและสร้างสรรค์ผลงานที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นไปได้อย่างไร้ขีดจำกัด ผ่านการทดลองทางศิลปะในช่วงที่พำนักกับ STPI

เกี่ยวกับ นที อุตฤทธิ์: 

นที อุตฤทธิ์ (เกิดปี 2513 ที่กรุงเทพฯ) สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยศิลปะการออกแบบในปี 2530 และจากมหาวิทยาลัยศิลปากรในปี 2534 ซึ่งทั้งสองแห่งตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ

งานของนทีมุ่งเน้นไปที่การสำรวจผ่านการวาดภาพ ซึ่งเขาใช้เพื่อตั้งคำถามเกี่ยวกับศิลปะตะวันตกแบบคลาสสิก เขาทำงานร่วมกับกับแสงและมุมมองเพื่อสำรวจการสร้างภาพในรูปแบบต่างๆ ภาพที่ซับซ้อนของเขาใช้คำอุปมาอุปไมยที่หลากหลาย ซึ่งโดยปกติจะอยู่ในรูปแบบของภาพนิ่งแบบดั้งเดิม บ่งบอกถึงภูมิทัศน์ทางสังคมการเมืองของประเทศไทยในปัจจุบัน

ผลงานนิทรรศการที่ผ่านมาของนทีได้แก่  Déjà vu: When the Sun Rises in the West, Art Centre, มหาวิทยาลัยศิลปากร, กรุงเทพฯ, ประเทศไทย (2022), Déjà vu, Fondazione Made in Cloister, นาโปลี, อิตาลี (2020), Optimism is Ridiculous: The Altarpieces, The Private Museum, สิงคโปร์ (2018), Optimism is Ridiculous: The Altarpieces, National Gallery of Indonesia, จาการ์ตา, อินโดนีเซีย (2017), Optimism is Ridiculous: The Altarpieces, Ayala Museum, มะนิลา, ฟิลิปปินส์ (2017), Illustration of the Crisis, Bangkok University Gallery, กรุงเทพฯ, ประเทศไทย (2013), After Painting, Singapore Art Museum, สิงคโปร์ (2010) และ The Amusement of Dreams, Hope and Perfection, Art Center of Chulalongkorn University, กรุงเทพฯ, ประเทศไทย (2007)

นิทรรศการกลุ่มล่าสุดของนทีได้แก่ The Spirit of Maritime Crossing, Palazzo Mangilli Valmarana, เวนิส, อิตาลี (2024), The Possibility of an Island: Contemporary Art from Southeast Asia, Cromwell Place, ลอนดอน, สหราชอาณาจักร (2020), We Do Not Dream Alone, Asia Society Triennial, นิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกา (2021), Beyond Bliss, Bangkok Art Biennale 2018, กรุงเทพฯ, ประเทศไทย (2018), Contemporary Chaos, Vestfossen Kunstlaboratorium, นอร์เวย์ (2018), Thai Eye, BACC, กรุงเทพฯ, ประเทศไทย และ Saatchi Gallery, ลอนดอน, สหราชอาณาจักร (2016/2015), Art of ASEAN, Bank Negara Museum and Gallery, กัวลาลัมเปอร์, มาเลเซีย (2015), Time of Others, Museum of Contemporary Art Tokyo, โตเกียว, ญี่ปุ่น (2015) และ Asian Art Biennale 2013: Everyday Life, National Taiwan Museum of Fine Arts, ไทเป, ไต้หวัน (2013)

ผลงานของเขาเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลกชันสาธารณะที่มีชื่อเสียงมากมาย เช่น Queensland Art Gallery และ Gallery of Modern Art ในบริสเบน, Singapore Art Museum ในสิงคโปร์, มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ในกรุงเทพฯ รวมถึงคอลเลกชันส่วนบุคคลในยุโรปและเอเชีย


Spread the love