มูลนิธิทีทีบี ผ่านโครงการไฟ-ฟ้า โดย ทีทีบี มุ่งสานต่อกิจกรรมโชว์เคส “fai-fah Art Fest 2024”
มูลนิธิทีทีบี ผ่านโครงการไฟ-ฟ้า โดย ทีทีบี มุ่งสานต่อกิจกรรมโชว์เคส “fai-fah Art Fest 2024” พื้นที่ค้นพบศักยภาพของเด็กไฟ-ฟ้า เพิ่มความเข้มข้นในมิติ “การให้”
มูลนิธิทีทีบี ภายใต้โครงการไฟ-ฟ้า โดย ทีทีบี สานต่อกิจกรรม “fai-fah Art Fest 2024” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 15 ด้วยแนวคิด “ของขวัญจากเด็กธรรมดา” เพื่อเปิดพื้นที่ให้เยาวชนสร้างสรรค์และนำเสนอผลงานให้สังคมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเด็ก ๆ รวมถึงสร้างการมีส่วนร่วมของเด็กไฟ-ฟ้า อาสาสมัครทีทีบีและชุมชน เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับพนักงานทีทีบี ในการมุ่งมั่นทำกิจกรรมเพื่อเปลี่ยนสังคมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ตอกย้ำปรัชญา Make REAL Change
นางประภาศิริ โฆษิตธนากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านทรัพยากรบุคคล ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า กิจกรรม “fai-fah Art Fest 2024” ภายใต้แนวคิด “ของขวัญจากเด็กธรรมดา” เกิดจากการที่เด็กไฟ-ฟ้าได้เรียนรู้ในสิ่งที่ชอบ สู่การนำเสนอศักยภาพของเด็กธรรมดา ๆ แต่มีความสามารถไม่ธรรมดา เพื่อให้สังคมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเด็ก ๆ ที่ได้รับการจุดประกายจากศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า รวมถึงการส่งเสริมให้เยาวชนได้ค้นพบศักยภาพในตัวเอง เกิดแรงบันดาลใจ มีความสุขกับชีวิต ได้รับการยอมรับ สามารถดูแลตัวเองได้ในอนาคต และสร้างสิ่งดี ๆ ต่อยอดสู่การ “ให้คืน” สู่สังคมอย่างยั่งยืน ตามปรัชญา Make REAL Change ทั้งนี้ ศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้าก้าวสู่ปีที่ 15 ได้จุดประกายเด็กกว่า 12,700 คน เป็นเด็กไฟ-ฟ้าอายุระหว่าง 12-17 ปี มากกว่า 10,000 คน และเด็กห้องสมุดอายุน้อยกว่า 12 ปี มากกว่า 2,700 คน โดยทีทีบีพร้อมเดินหน้าให้การสนับสนุนและช่วยเหลือให้มีกิจกรรมดี ๆ ผ่านศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้าอย่างต่อเนื่อง และพร้อมที่จะขยายเครือข่ายความร่วมมือไปสู่โรงเรียนต่าง ๆ ในพื้นที่ต่างจังหวัดที่ต้องการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนผ่านทักษะด้าน Art skill & Life skill เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้ค้นหาศักยภาพและความถนัดของตนเองด้วยเช่นกัน
“วันนี้เหมือนเป็นวันจบการศึกษาของเด็ก ๆ ไฟ-ฟ้าทุกคนที่ได้คิดโครงการและดึงศักยภาพด้านต่าง ๆ ของตนเองออกมา โดยทีทีบีเป็นผู้ใหญ่ที่หยิบยื่นโอกาสให้ เพราะเชื่อว่าเด็กทุกคนมีพลังและจะเป็นกำลังสำคัญที่ผลักดันหรือสร้างสรรค์ให้สังคมไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้ เพียงต้องได้รับการจุดประกาย กิจกรรมนี้จึงเป็นพื้นที่ให้เด็ก ๆ ได้ค้นหาความสามารถ ดึงศักยภาพของตัวเองออกมาและนำเสนอให้ผู้ใหญ่ได้เห็นว่า เด็กธรรมดาสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมได้ พร้อมส่งต่อความสุขผ่านการแสดงและผลงานศิลปะสุดพิเศษ รวมถึงบูทสินค้าจากเด็กไฟ-ฟ้าและชุมชนเครือข่ายกว่า 20 บูท ทั้งนี้ สิ่งที่ทำให้ศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้าประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน คือ แรงสนับสนุนจากผู้บริหารและพนักงานทีทีบีที่ทุ่มเทขับเคลื่อนอย่างจริงจัง รวมไปถึงความไว้วางใจจากผู้ปกครองของเด็ก ๆ” นางประภาศิริ กล่าว
น้องมายด์และน้องทิด
น้องทิด หรือ ธิติสรณ์ เกียรติสมภพ เด็กไฟ-ฟ้า ปี 2 คลาสร้องเพลงและดนตรี จากศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้าจันทน์ และประธานนักเรียนโรงเรียนวัดสุทธิวราราม บอกว่า มาสมัครที่ศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้า โดยเลือกเรียนคลาสร้องเพลงและดนตรี เพราะชอบดนตรี ชอบทำกิจกรรม และอยากเรียนนิเทศศาสตร์ ซึ่งการได้เรียนที่ศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้าสนุกมาก นอกจากได้เรียนรู้ทฤษฎีด้านดนตรีมากขึ้นแล้ว ยังสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีหลายอย่าง เช่น ทำให้กล้าแสดงออก ลำดับความคิดได้ดีขึ้น ซึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้รับประสบการณ์เยอะมาก ทำให้ได้ค้นพบสิ่งที่ชอบและเหมาะกับตัวเอง พร้อมทั้งสามารถนำสิ่งที่เรียนรู้ไปต่อยอดได้ โดยงาน fai-fah Art Fest ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ทำให้ได้พัฒนาในเรื่องการกล้าแสดงออก คุ้นเคยกับเวทีและผู้ชมจำนวนมาก ๆ เพิ่มความมั่นใจในการแสดงสำหรับเวทีต่อไปที่อาจจะใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงการทำงานเป็นทีม เพราะทุกคนต้องช่วยกันคิดช่วยกันทำในสิ่งที่แต่ละคนถนัด
“ขอขอบคุณทีทีบีที่ให้โอกาส ทำให้ผมได้รับทั้งความรู้ด้านดนตรีและประสบการณ์มากมาย รวมถึงสังคมใหม่ ๆ ตอนนี้ชวนเพื่อนมาเป็นเด็กไฟ-ฟ้าอีก 20 คนแล้ว ซึ่งทุกคนสนุกกับการเรียน และเริ่มรู้ตัวว่าชอบอะไร โดยตัวผมฝันอยากเป็นตากล้อง มีเป้าหมายจะสอบเข้าคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย”
ปิดท้ายด้วยความรู้สึกของรุ่นพี่ไฟ-ฟ้า คลาสเต้นและร้องเพลง จากศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้าประชาอุทิศ “น้องมายด์”-กิตติยากร โพล้งเศรษฐี ที่ปัจจุบันได้รับทุนเพชรพระจอมเกล้า มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จากการนำศักยภาพด้านการเต้นไปสร้างชื่อเสียงให้กับสถาบันการศึกษา และยังเป็นครูสอนเต้นที่ Fuku Dance Studio มีรายได้ดูแลตัวเอง บอกว่า ชอบเต้นและร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก เข้ามาเป็นเด็กไฟ-ฟ้า เพราะอยากหากิจกรรมทำยามว่าง ซึ่งสิ่งที่ได้รับคือ ทักษะที่สามารถนำไปต่อยอดได้ตามความชอบและความถนัด รวมถึงภาวะผู้นำและเรื่องส่งต่อการให้จากการทำกิจกรรมเพื่อสังคม พร้อมอยากแบ่งปันสิ่งที่มีให้กับคนอื่น เช่น แบ่งปันประสบการณ์หรือสอนเต้นให้กับเด็ก ๆ ในชุมชน ซึ่งก่อนหน้านี้ยังเด็กอาจจะไม่ค่อยได้ใส่ใจ แต่พอโตมากับศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้าที่มุ่งเน้นเรื่องการให้ ก็ช่วยหล่อหลอมและจุดประกายให้มองเห็นคุณค่าของการให้มากขึ้น อยากมีส่วนในการช่วยเหลือและมอบสิ่งดี ๆ ให้กับคนที่ยังขาดโอกาส ให้ได้รับโอกาสในสังคมมากขึ้น
“กิจกรรม fai-fah Art Fest ช่วยเติมเต็มประสบการณ์ให้กับเด็ก ๆ เพราะหลายคนยังไม่เคยมีเวทีในการแสดง หรือไม่มั่นใจในตัวเอง การได้มาเริ่มที่เวทีนี้ ทำให้เด็ก ๆ มีความมั่นใจมากขึ้นและเป็นจุดเริ่มต้นในการมองหาเวทีที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงกิจกรรมนี้ยังทำให้ได้รู้จักกลุ่มเพื่อนใหม่ ๆ ที่ชอบในสิ่งเดียวกัน และสามารถร่วมเป็นทีมเดียวกัน พาไปกันไปต่อยอดให้ไกลขึ้นกว่าการเดินไปคนเดียว มีการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เพื่อพัฒนาไปด้วยกัน ต้องขอขอบคุณทีทีบีที่สร้างพื้นที่แห่งโอกาสให้กับเด็ก ๆ ที่ครอบครัวไม่ค่อยมีเงิน มีโอกาสได้เรียนฟรี โดยไม่ต้องจ่ายค่าตอบแทนอะไรเลย เพียงแค่เป็นคนดีในสังคม รู้จักส่งต่อการให้คนอื่นบ้าง ถือเป็นการให้อย่างแท้จริง ตอนนี้หนูภูมิใจในตัวเองที่สามารถหาเงินส่งตัวเองเรียนจากการสอนเต้น โดยเอาทักษะที่ได้จากศูนย์เรียนรู้ไฟ-ฟ้ามายื่นขอทุนเรียนฟรีจากมหาวิทยาลัย พร้อมทั้งกำลังเดินตามความฝันที่อยากเป็นศิลปิน หรือนักเต้นมืออาชีพ หรือเป็น Backup ให้กับศิลปิน” น้องมายด์ กล่าว
มูลนิธิทีทีบี ภายใต้โครงการไฟ-ฟ้า โดย ทีทีบี มุ่งมั่นและตั้งใจเดินหน้าจุดประกายเยาวชนและชุมชน เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน ติดตามกิจกรรมดี ๆ ต่อได้ที่ https://www.ttbfoundation.org