Business

NTT DOCOMO และ Space Compass จับมือแอร์บัสพัฒนาเทคโนโลยี HAPS

Spread the love

NTT DOCOMO และ Space Compass จับมือแอร์บัสพัฒนาเทคโนโลยี HAPS ให้คำมั่นลงทุน 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในบริษัท AALTO

  • กลุ่มธุรกิจและธนาคารชั้นนำของประเทศญี่ปุ่นได้ให้คำมั่นที่จะลงทุนจำนวน 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯใน AALTO ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของแอร์บัส
  • การลงทุนครั้งนี้ช่วยเร่งสนับสนุนแผนงานด้านอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ให้กับ Zephyr ซึ่งเป็นผู้นำเทคโนโลยีสถานีแพลตฟอร์มที่ปฏิบัติการในชั้นบรรยากาศสตราโตสเฟียร์ (High Altitude Platform Station หรือ HAPS) ของโลก และร่วมสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์สำหรับการพัฒนา HAPS เชิงพาณิชย์ในภูมิภาคเอเชีย
  • ประเทศญี่ปุ่นเป็นผู้นำด้านเครือข่ายที่ไม่ได้ติดตั้งบนภาคพื้นดิน (Non-Terrestrial Networks: NTN) ในรูปแบบ HAPS โดยมี NTT DOCOMO เป็นผู้นำภาคการเชื่อมต่อระหว่างสัญญาณจากชั้นบรรยากาศโดยตรงไปยังอุปกรณ์ (D2D)
  • ความเชี่ยวชาญของ NTT DOCOMO ในด้านการเชื่อมต่ออุปกรณ์เคลื่อนที่ภาคพื้นดิน ผสานกับโซลูชันเทคโนโลยีการสำรวจทรัพยากรโลก (Earth Observation) ขั้นสูงที่มอบให้โดย แอร์บัส ดีเฟนซ์ แอนด์ สเปซ (Airbus Defence and Space) จะก่อให้เกิดกลุ่มผู้ถือหุ้นที่แข็งแกร่งสำหรับบริษัท AALTO

กลุ่มพันธมิตรกิจการค้าร่วมญี่ปุ่น (The Japanese Consortium) ซึ่งนำโดย บริษัท เอ็นทีที โดโคโม (NTT DOCOMO) และบริษัท สเปซ คอมพาส คอร์ปอเรชัน (Space Compass) ร่วมกับ ธนาคารมิซูโฮ จำกัด (Mizuho Bank Limited) และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศญี่ปุ่น (Development Bank of Japan Inc.) ได้ประกาศคำมั่นสัญญาที่จะลงทุนมูลค่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในบริษัท อาลโต ฮาปส์ จำกัด  (AALTO HAPS Limited: AALTO) ซึ่งเป็นผู้สร้างและดำเนินการเซฟเฟอร์ (Zephyr) สถานีแพลตฟอร์มที่ปฏิบัติการในชั้นบรรยากาศสตราโตสเฟียร์ (High Altitude Platform Station หรือ HAPS) ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ โดยการลงทุนครั้งนี้จะดำเนินการผ่าน HAPS JAPAN Corporation องค์กรที่สร้างขึ้นเพื่อการลงทุนของพันธมิตรกิจการค้าร่วมครั้งนี้โดยเฉพาะ

การลงทุนครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่มุ่งให้บริการด้านการเชื่อมต่อและบริการสำรวจทรัพยากรโลกเชิงพาณิชย์โดยใช้สถานีแพลตฟอร์ม HAPS ในประเทศญี่ปุ่นและทั่วภูมิภาคเอเชีย การตกลงครั้งนี้ยังได้สนับสนุนแผนงานด้านอุตสาหกรรมและเชิงพาณิชย์สำหรับบริการของ AALTO โดยได้ตั้งเป้าที่จะเริ่มเปิดให้บริการในญี่ปุ่นและขยายสู่การบริการทั่วโลกภายในปี 2569

Zephyr สามารถขึ้นบินได้ต่อเนื่องยาวนานหลายเดือนต่อครั้งในชั้นบรรยากาศสตราโตสเฟียร์ นำเสนอสมรรถนะที่สามารถพลิกโฉมการเชื่อมต่ออุปกรณ์เคลื่อนที่และการสำรวจทรัพยากรโลก ในฐานะแพลตฟอร์มที่ไม่จำกัดรูปแบบตามอุปกรณ์รองรับภารกิจ (Payload Agnostic Platform) ทำให้ Zephyr สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นเสารับสัญญาณอเนกประสงค์บนท้องฟ้าที่ให้บริการเชื่อมต่อสัญญาณ 5G ความเร็วสูง สื่อสารโดยตรงจากชั้นบรรยากาศไปยังอุปกรณ์เคลื่อนที่ นอกจากนี้ระบบบริการสำรวจทรัพยากรโลก Strat-Observer ของแอร์บัส ยังทำให้เครือข่ายสามารถใช้ Zephyr เพื่อตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย ทั้งการสำรวจ ติดตาม ตรวจหา และการตรวจจับข้อมูลต่าง ๆ บริษัท AALTO จึงมีความพร้อมให้บริการสำหรับหลายรูปแบบกรณีการใช้งาน เช่น การขยายเพิ่มความครอบคลุมให้กับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Mobile Network Operator: MNO) และการให้บริการเชื่อมต่อประสิทธิภาพสูงสำหรับการตอบสนองต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติของประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น

การลงทุนครั้งนี้นับเป็นการส่งเสริมความร่วมมืออันยาวนานระหว่าง AALTO, NTT DOCOMO และ Space Compass ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง NTT และ สกาย เพอร์เฟค เจแซท (SKY Perfect JSAT) ที่มุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายการประมวลผลบนอวกาศแบบบูรณาการ โดยแผนการพัฒนา HAPS ในเชิงพาณิชย์นั้นได้เริ่มจากข้อตกลงเพื่อเริ่มสำรวจความร่วมมือกับ AALTO ที่ลงนามในปี 2565 นอกเหนือจากการลงทุนครั้งนี้แล้ว AALTO และ Space Compass ยังมีแผนจะลงนามในข้อตกลงเชิงพาณิชย์เพื่อเสริมความสัมพันธ์ในประเทศญี่ปุ่นและภูมิภาคเอเชียให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในปีต่อ ๆ ไปอีกด้วย

แอร์บัส ดีเฟนซ์ แอนด์ สเปซ จะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท AALTO โดยการลงทุนนั้นขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในการการสรุปข้อตกลง และการอนุมัติตามกฎระเบียบต่าง ๆ

นายทาคาอากิ ซาโตะ (Takaaki Sato) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ NTT DOCOMO กล่าวว่า “NTT DOCOMO จะยังคงปรับปรุงคุณภาพเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง และมุ่งเน้นการสร้างพรมแดนด้านเทคโนโลยีใหม่ที่ยกระดับการในเข้าถึงบริการเชื่อมต่อต่าง ๆ การได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรของเราซึ่งคือ Space Compass AALTO และแอร์บัส ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นกับศักยภาพที่มากมายของโซลูชัน NTN ในระบบ HAPS  เทคโนโลยีนี้ได้ผสานวิศวกรรมอันล้ำหน้าที่แตกต่างจากเทคโนโลยีอื่น เข้ากับปัจจัยทางเศรษฐศาสตร์ที่สอดคล้องกัน เพื่อขยายการเชื่อมต่อให้ครอบคลุมไปยังชนบทและพื้นที่ห่างไกล และสนับสนุนการตอบสนองต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติของเราโดยรวม”

นายทาคาอากิ กล่าวเสริมว่า “ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรครั้งนี้ เรารอคอยด้วยความตื่นเต้นที่จะร่วมทำงานเชิงกลยุทธ์กับ AALTO เพื่อใช้ Zephyr ในการพลิกโฉมประสบการณ์ของลูกค้า”

นายชิเกฮิโระ โฮริ (Shigehiro Hori) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของ Space Compass Corporation กล่าวว่า “เครือข่ายที่ไม่ได้ติดตั้งบนภาคพื้นดินนั้นมีศักยภาพในการพลิกโฉมระบบนิเวศการสื่อสารในประเทศญี่ปุ่น ด้วยความสามารถในการเชื่อมต่อสู่พื้นที่ที่เข้าถึงได้ยากในขณะเดียวกันก็สนับสนุนการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินในประเทศของเรา ญี่ปุ่นมีเกาะที่อยู่ห่างไกลและพื้นที่ลักษณะภูเขาจำนวนมากซึ่งปัจจุบันใช้โซลูชันการเชื่อมต่อที่ไม่มีความเหมาะสมทางเศษฐกิจ ความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์ของเรากับ AALTO ครั้งนี้ได้สนับสนุนทั้งนวัตกรรมเทคโนโลยีและโอกาสในตลาดของการเชื่อมต่อ ซึ่งจะช่วยเราสร้างโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมใหม่ในพื้นที่เหล่านี้ และสนับสนุนเราในยุคที่ประชากรลดจำนวนลง”

นายโคชิโร มัตซึฟูจิ (Koichiro Matsufuji) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของ Space Compass Corporation กล่าวเสริมว่า “ในฐานะผู้นำของเทคโนโลยี HAPS ในประเภทเดียวกัน Zephyr เป็นแพลตฟอร์มที่มีความสามารถเฉพาะตัวซึ่งเราจะใช้พัฒนาให้เกิดประโยชน์ในปีต่อ ๆ ไป โดยเราต้องการสร้างกรณีการใช้งานที่ประสบความสำเร็จขึ้นในญี่ปุ่นและขยายต่อไปยังเอเชีย”

นายฌองต์-บริซ ดูมองต์ (Jean-Brice Dumont) หัวหน้าฝ่ายกำลังทางอากาศของแอร์บัส ดีเฟนซ์ แอนด์ สเปซ และประธานคณะกรรมการบริหารของ AALTO ให้ความเห็นว่า “หลังจากที่ Zephyr ได้รับการพัฒนาดูแลโดยแอร์บัส ดีเฟนซ์ แอนด์ สเปซ มาเป็นเวลากว่า 10 ปี Zephyr ก็ได้กลายเป็นแพลตฟอร์มด้าน HAPS ชั้นนำของโลกและมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศของอวกาศและความมั่นคง โดยตอบสนองต่อทั้งภาคการค้าและภาครัฐจากการปฏิบัติการในชั้นสตราโตสเฟียร์ และด้วยการสร้างธุรกิจด้านบริการ HAPS ขึ้นโดยเฉพาะในปี 2565 บริษัท AALTO จึงได้รับการผลักดันให้เป็นผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมนี้”

“แอร์บัส ดีเฟนซ์ แอนด์ สเปซ ได้ยกระดับความร่วมมือกับ NTT รวมถึง NTT DOCOMO และ SKY Perfect JSAT ขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นถึงความสามารถอันแข็งแกร่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ปัจจุบัน AALTO มีผู้ลงทุนที่ยอดเยี่ยมซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนแผนการเติบโตอันทะเยอทะยานของบริษัทในช่วงปีต่อไปจากนี้”

นายซาเมอร์ ฮาลาวี (Samer Halawi) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ AALTO กล่าวว่า “นี่คือการลงทุนที่เป็นหมุดหมายครั้งสำคัญของ AALTO ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าตามลำดับในแผนงานสู่การให้บริการในปี 2569 ตามเป้าหมายของบริษัทที่ตั้งไว้ ในขณะที่เราเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีในเชิงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ ด้วยการที่มีผู้นำระดับโลกด้านการบินและการเชื่อมต่อในฐานะผู้ถือหุ้น ปัจจุบัน AALTO จึงผสานทั้งความเชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีและการเชื่อมต่อเข้าถึงทั่วโลก เพื่อสร้างมูลค่าจากโอกาสการเติบโตในตลาดที่มีความสำคัญและสามารถตอบสนองได้โดยรวม ในทั้งด้านการเชื่อมต่อและการสำรวจทรัพยากรโลก”

“การลงทุนครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ AALTO ก้าวเข้าสู่การพัฒนาขั้นต่อไป ซึ่งประกอบด้วยการเปิดตัวภารกิจจำนวนมากของลูกค้าที่หลากหลายในปีต่อไปจากนี้ และการจัดตั้งสถานีสำหรับการปล่อยตัวและลงจอดของ Zephyr รวมถึงการพัฒนากระบวนการรับรองของเราให้ก้าวหน้า เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้บุกเบิกพรมแดนใหม่ในการเชื่อมต่อที่มีความยั่งยืนและการสำรวจทรัพยากรโลกจากชั้นบรรยากาศสตราโตสเฟียร์ ขณะเดียวกันก็ได้สร้างมูลค่าที่สำคัญให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดของเรา”


Spread the love