CBNTchannel

โลกของข่าว โลกของคุณ ติดต่อทีมงานและส่งหมายเชิญร่วมงานได้ที่ chillbiznews@gmail.com

BusinessIT

รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ

Spread the love

รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ

  • คาดการณ์ระหว่างปี 2024 จนถึงสิ้นปี 2030 ปริมาณการใช้ดาต้าเน็ตบนเครือข่ายมือถือทั่วโลกจะเติบโตเกือบ 200%
  • ในอีกหกปีข้างหน้า คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการ 5G ทั่วโลกอยู่ที่ 3 พันล้านราย 60% เป็นผู้ใช้บริการ 5G Standalone (หรือ 5G SA)
  • รายงานฉบับนี้รวบรวมยูสเคสที่น่าสนใจจาก T-Mobile (สหรัฐอเมริกา), Elisa (ฟินแลนด์) และ stc (ซาอุดีอาระเบีย)

5G Standalone (5G SA) และ 5G Advanced ได้รับการคาดการณ์ว่าจะกลายเป็นเครือข่าย 5G ที่ผู้ให้บริการการสื่อสาร (CSPs) ให้ความสำคัญเป็นหลักตลอดช่วงทศวรรษที่เหลือจากนี้ เนื่องจากผู้ให้บริการต่างปรับใช้ความสามารถใหม่ ๆ เพื่อสร้างบริการที่เน้นการส่งมอบคุณค่ามากกว่าปริมาณดาต้าเน็ต โดยการวิเคราะห์นี้เป็นส่วนหนึ่งของข้อมูลเชิงสถิติด้านเครือข่ายในรายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2024 ซึ่งได้ขยายระยะเวลาการคาดการณ์ไปจนถึงสิ้นปี 2030

แม้อัตราการเติบโตของปริมาณการใช้ดาต้าเน็ตบนเครือข่ายมือถือจะลดลง โดยปีนี้ประเมินการเติบโตต่อปีอยู่ที่ 21% แต่คาดว่าภายในสิ้นปี 2030 จะยังเติบโตขึ้นเกือบสามเท่าจากตัวเลข ณ ปัจจุบัน

รายงานฉบับนี้ยังเผยให้เห็นว่าผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรก ๆ กำลังนำเสนอโมเดลการส่งมอบคุณค่าที่อยู่บนพื้นฐานของการเชื่อมต่อที่แตกต่าง (Differentiated Connectivity) เพื่อรับประกันว่าจะได้รับคุณภาพการเชื่อมต่อในระดับสูงในเวลาที่ต้องการใช้มากที่สุด พร้อมสร้างโอกาสการสร้างรายได้และการเติบโตใหม่ ๆ โดยมียูสเคสที่เกี่ยวข้องจากผู้ให้บริการอย่าง T-Mobile ในสหรัฐอเมริกา และ Elisa ในฟินแลนด์

เฟรดริก เจดลิง รองประธานผู้บริหารและหัวหน้าเครือข่ายของอีริคสันกล่าวว่า “การสร้างความแตกต่างในบริการและโอกาสที่เกิดขึ้นจากประสิทธิภาพนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งเมื่ออุตสาหกรรมของเรากำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยปัจจัยนี้ได้ถูกเน้นย้ำในรายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2024 ซึ่งรวมถึงการวิเคราะห์เชิงลึก ข้อมูลเชิงสถิติ และยูสเคสจากลูกค้า การเปลี่ยนผ่านไปสู่เครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูงและสามารถโปรแกรมได้ที่เปิดกว้างและทำงานบนคลาวด์จะช่วยผู้ให้บริการสามารถนำเสนอและคิดค่าบริการตามคุณค่าที่ส่งมอบได้ ไม่ใช่แค่ปริมาณดาต้าเน็ต โดยรายงานฉบับนี้ยังนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าเกี่ยวกับสิ่งที่อุตสาหกรรมของเราสามารถทำได้และขั้นตอนที่จำเป็นในการไปถึงเป้าหมายดังกล่าว”

รายงานยังชี้ให้เห็นถึงศักยภาพทั่วโลกสำหรับการพัฒนาการเชื่อมต่อที่แตกต่าง หรือ Differentiated Connectivity โดยย่านความถี่ 5G Mid-Band ได้ถูกนำไปใช้งานเพียงประมาณ 30% ของไซต์ทั้งหมดทั่วโลกนอกจีนแผ่นดินใหญ่

จากจำนวนผู้ให้บริการการสื่อสารประมาณ 320 รายที่เปิดให้บริการ 5G เชิงพาณิชย์ในปัจจุบัน น้อยกว่า 20% ที่เปิดให้บริการ 5G SA ซึ่งการเพิ่มความหนาแน่นของไซต์ย่านความถี่ขนาดกลางและ 5G SA ถือเป็นตัวเร่งสำคัญในการใช้ประโยชน์จากศักยภาพทั้งหมดของ 5G รวมถึงความสามารถด้านการโปรแกรมและความอัจฉริยะของเครือข่าย

ภายในสิ้นปี 2030 เกือบ 60% ของจำนวนผู้ใช้บริการ 5G ทั่วโลก 6.3 พันล้านราย จะเป็นผู้ใช้งาน 5G Standalone (SA)

สำหรับปริมาณการใช้ดาต้าเน็ตบนมือถือทั่วโลก คาดว่าภายในสิ้นปี 2030 เครือข่าย 5G จะรองรับการใช้ดาต้าเน็ตบนมือถือประมาณ 80% ของจำนวนดาต้าเน็ตบนมือถือทั้งหมด เทียบกับ 34% ณ สิ้นปี 2024

บริการ Fixed Wireless Access (FWA) ยังคงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยเป็นยูสเคส 5G ที่ใหญ่เป็นอันดับสอง รองจากบรอดแบนด์มือถือ (eMBB)

ในสี่จากหกภูมิภาค มากกว่า 80% ของผู้ให้บริการการสื่อสารเปิดให้บริการ FWA แล้ว โดยมีจำนวนผู้ให้บริการ FWA ที่นำเสนอแพ็กเกจตามความเร็ว ด้วยการใช้พารามิเตอร์การรับส่งข้อมูลที่คล้ายคลึงกับเคเบิลหรือไฟเบอร์ เพิ่มขึ้นจาก 30% เป็น 43% ในช่วงปีที่ผ่านมา

สำหรับยุโรปตะวันตกมีการเติบโตอย่างรวดเร็วของการเปิดให้บริการ FWA ที่อิงตามความเร็ว โดย 52% ของผู้ให้บริการในภูมิภาคนี้ได้เปิดให้บริการ FWA ไปแล้ว เทียบกับ 32% จากเมื่อปีก่อน และในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมานี้ ยุโรปคิดเป็น 73% ของยอดการเปิดตัว 5G FWA ทั้งหมดทั่วโลก

จากคาดการณ์ว่าในสิ้นปี 2030 จะมีปริมาณการเชื่อมต่อเครือข่าย FWA ทั่วโลกถึง 350 ล้านการเชื่อมต่อ ซึ่งเกือบ 80% จะเป็นการเชื่อมต่อผ่าน 5G

รายงานยังกล่าวถึง AI รวมถึงแอปพลิเคชัน Generative AI ที่ถูกผสานรวมไว้ในสมาร์ทโฟน แล็ปท็อป นาฬิกา และผลิตภัณฑ์ FWA ที่อาจส่งผลต่อการรับส่งข้อมูลในเครือข่าย ผลักดันการเติบโตของปริมาณการใช้ดาต้าเน็ตบนมือถือให้สูงเกินกว่าการคาดการณ์พื้นฐาน ณ ปัจจุบัน

สถิติสำคัญอื่น ๆ ในรายงานฉบับนี้ยังรวมถึงการคาดการณ์ว่าภายในสิ้นปี 2024 จะมียอดผู้ใช้บริการ 5G ทั่วโลกสูงเกือบ 2.3 พันล้านราย คิดเป็น 25% ของผู้ใช้บริการมือถือทั้งหมดทั่วโลก และคาดว่ายอดผู้ใช้บริการ 5G จะเติบโตแซงหน้าผู้ใช้ 4G ทั่วโลกในช่วงปี 2027

คาดว่าการนำเทคโนโลยี 6G มาปรับใช้ช่วงแรก จะเริ่มในปี 2030 โดยจะเน้นไปที่การต่อยอดและขยายความสามารถของ 5G SA และ 5G Advanced

รายงาน 40 หน้านี้ ยังประกอบด้วยบทความยูสเคส 3 เรื่องหลัก ได้แก่:

  • T-Mobile takes network slicing from pilots to real-world scenarios (with T-Mobile in the U.S. About network slicing use cases.)
  • Premium FWA services enabled in Finland with 5G SA (with Elisa in Finland. About Elisa’s 5G SA FWA offering.)
  • A multi-New Radio (NR) carrier strategy for best performance (with stc in the Kingdom of Saudi Arabia (KSA).

อ่านรายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับเต็ม เดือนพฤศจิกายน 2024 ได้ที่ลิงก์นี้

  • รายงานคาดการณ์ระหว่างปี 2024 จนถึงสิ้นปี 2030 ปริมาณการใช้ดาต้าเน็ตบนเครือข่ายมือถือทั่วโลกจะเติบโตเกือบ 200%
  • ในอีกหกปีข้างหน้า คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการ 5G ทั่วโลกอยู่ที่ 3 พันล้านราย 60% เป็นผู้ใช้บริการ 5G Standalone (หรือ 5G SA)
  • รายงานฉบับนี้รวบรวมยูสเคสที่น่าสนใจจาก T-Mobile (สหรัฐอเมริกา), Elisa (ฟินแลนด์) และ stc (ซาอุดีอาระเบีย)

 


Spread the love