เปิดสัปดาห์วันผ้าไทยแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติฯ พระพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2567

เปิดสัปดาห์วันผ้าไทยแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติฯ พระพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2567 วธ. ร่วมกับสยามพารากอน จัดงาน “แพรพัสตรา บรมราชินีนาถ” ชวนชมชุดพระราชนิยม ก่อนเตรียมเสนอขึ้นมรดกภูมิปัญญาที่จับต้องไม่ได้ต่อ UNESCO พร้อมโชว์ของจริงสุดอลังการ ชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมสนุกสนาน 7 วัน 7 คืน ช้อปสินค้า CPOT กว่า 30 ชุมชน ตั้งแต่วันนี้ถึง 18 ส.ค. 67 ณ พาร์ค พารากอน

วันที่ 12 สิงหาคม 2567 เวลา 11.30 น. นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดงาน “แพรพัสตรา บรมราชินีนาถ” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2567 โดยมี นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ นางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์  กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายองค์กรสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยและผู้แทน ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารศูนย์การค้าพารากอน แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน เข้าร่วม ณ พาร์ค พารากอน ชั้นเอ็ม ศูนย์การค้าสยามพารากอน

ในโอกาสนี้ ประธานและคณะร่วมกันถวายความเคารพหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รับชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน ได้แก่ การแสดง ชุด “ระบำชุดไทยพระราชนิยม” โดย สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ การแสดง ชุด “วิจิตราอาภรณ์ของแผ่นดิน ภูษาศิลป์จากท้องถิ่น สู่สากล” โดย สาขาวิชาศิลปะการแสดง ภาควิชาศิลปะไทย คณะวิจิตรศิลป์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จากนั้นเยี่ยมชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ นิทรรศการวันผ้าไทยแห่งชาติ ชมการสาธิตงานศิลปวัฒนธรรม อาทิ การทำอาลัวพวงมาลัย และการจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย CPOT และในช่วงเย็นของวันที่ 12 สิงหาคม 2567 เวลา 19.19 น. เหล่าพสกนิกรพร้อมใจร่วมแสดงความจงรักภักดี สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ณ พาร์ค พารากอน พร้อมเพรียงกัน

นางสาวสุดาวรรณ กล่าวว่า เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2567 และวันผ้าไทยแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ร่วมกับภาคีเครือข่ายทางวัฒนธรรม ภาคเอกชน และชุมชน ร่วมกันจัดงานครั้งนี้เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เคียงคู่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตลอดระยะเวลา 70 ปี แห่งรัชสมัย โดยมิได้ย่อท้อต่อความลำบาก เพื่อพัฒนาประเทศและยกระดับความเป็นอยู่ของราษฎรให้ดีขึ้น ทรงตั้งพระราชหฤทัยและทรงทุ่มเทพระวรกาย ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมของชาติ และส่งเสริมมรดกภูมิปัญญาไทยทุกสาขา โดยเฉพาะการส่งเสริมผ้าในท้องถิ่น ซึ่งเป็นหัตถกรรมสิ่งทอที่เป็นเอกลักษณ์ของชาติที่ทรงคุณค่า อันเกิดจากภูมิปัญญาของชาวบ้านนับแต่โบราณ นำไปสู่การพัฒนาสร้างสรรค์ ต่อยอด สร้างอาชีพ สร้างรายได้แก่ราษฎรให้สามารถเลี้ยงชีพได้อย่างเพียงพอ อีกทั้งยังเป็นการรักษาฟื้นฟูศิลปหัตถกรรมของไทยไม่ให้เสื่อมสูญไปตามกาลเวลา และทำให้ผ้าไทยเป็นที่รู้จักแพร่หลายไปทั่วโลก

โดยการจัดงานดังกล่าว จัดขึ้นเป็นระยะเวลา 7 วัน ระหว่างวันที่ 12-18 สิงหาคม 2567 มีนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติฯ เรียนรู้พระราชกรณียกิจของพระองค์ที่มีต่องานหัตถศิลป์ งานหัตถกรรมของไทย และผ้าไทยนานัปการ นิทรรศการวันผ้าไทยแห่งชาติ นำเสนอความเป็นมาของวันผ้าไทย การจัดแสดงชุดไทยพระราชนิยม ที่กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เตรียมเสนอขึ้นทะเบียนรายการตัวแทนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ต่อองค์การ เพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ UNESCO ในปี 2567 นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ชม ช้อป และเพลิดเพลินไปกับการแสดงศิลปวัฒนธรรมต่างๆ อาทิ การแสดงระบำชุดไทยพระราชนิยม การแสดงโขนเด็ก การขับร้องเพลงโดยศิลปินชื่อดัง อาทิ สุดา ชื่นบาน ศิลปินแห่งชาติ ผิงผิง The Golden Song เต๋า ภูศิลป์ และ Pat Power Pat การแสดงพื้นบ้าน (แสตมป์) การแสดงดนตรีไทยและดนตรีสากลโดยกรมศิลปากร การแสดงสมาคมศิลปินพื้นบ้าน 9 สมาคมและการขับร้องเพลงโดยศิลปินแห่งชาติ การแสดงดนตรีร่วมสมัยเฉลิมพระเกียรติฯ โดยเครือข่ายศิลปินร่วมสมัยจากสถาบันการศึกษาต่างๆ ศิลปินศิลปาธรและศิลปินรับเชิญ การเดินแบบแฟชั่นโชว์เครื่องแต่งกายผ้าไทยร่วมสมัย สนุกสนานไปกับการแสดงวงโปงลางออนซอนอีสาน จากโรงเรียนศรีกระนวนวิทยาคม การแสดงวงดนตรี โดยกรมประชาสัมพันธ์ การแสดงหุ่นละครเล็ก โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร การแสดงวงดนตรีลูกทุ่งชิงช้าสวรรค์ จากโรงเรียนโยธินบูรณะ กรุงเทพฯ และการแสดงหุ่นละครเล็ก โจหลุยส์ เป็นต้น

และอีกหนึ่งกิจกรรมภายในการ คือ การสาธิตงานศิลปวัฒนธรรม ที่จะมอบประสบการณ์เรียนรู้งานประดิษฐ์ งานฝีมือสุดเก๋ น่ารัก ต้อนรับวันแม่ อาทิ การสาธิตทำขนมอาลัวและวุ้นกะทิมะพร้าวน้ำหอมในรูปแบบ “พวงมาลัยและดอกมะลิ” การทำขนมบัวหิมะ ขนมชั้นดอกไม้ ขนมช่อผกากรอง การสาธิตปักกระเป๋าใส่เหรียญ การเย็บพวงกุญแจรูปปลา การเย็บหมอนผ้าปักชาดูดกลิ่น การทำกระเป๋าผ้าปัก การทำพวงกุญแจผ้าปัก การทำพวงกุญแจดอกไม้จากผ้า การทำมาลัยกลีบผ้าและการจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย (CPOT) จาก 30 ชุมชน อีกด้วย

ด้านนางมยุรี ชัยพรหมประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายองค์กรสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า งานดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรชาวไทย การสนับสนุนการจัดงานในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนชาวไทยได้เรียนรู้พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยเฉพาะด้านการอนุรักษ์ พัฒนาและต่อยอด “ผ้าไทย” นับเป็นการส่งเสริมงานหัตถศิลป์และงานหัตถกรรมของไทย และร่วมสืบสาน รักษาและต่อยอดมรดกทางศิลปวัฒนธรรมของชาติให้คงอยู่อย่างยั่งยืน ซึ่งสยามพิวรรธน์ ให้ความสำคัญและยึดมั่นในการสนับสนุนงานหัตถศิลป์และงานหัตถกรรมของไทยมาโดยตลอด ดังจะเห็นได้จากการเปิดพื้นที่เพื่อสนับสนุนงานภูมิปัญญาไทยและมอบโอกาสให้ช่างฝีมือไทย ได้นำเสนอผลงานอันทรงคุณค่าสู่สาธารณชนทั้งลูกค้าชาวไทยและสู่สายตาของคนทั่วโลก

โดยครั้งนี้ศูนย์การค้าสยามพารากอน ยังได้เปิดพื้นที่จัดแสดงป๊อปอัพ ICONCRAFT นำผลงานคราฟต์สุดสร้างสรรค์ด้วยฝีมือคนไทยมาจัดแสดงและจำหน่าย อาทิ ผ้าทอมือลายลวดลายวิจิตรที่จำหน่ายเฉพาะที่ไอคอนคราฟต์, กระเป๋าผ้า, ชุดผ้าไทยตัดเย็บด้วยฝีมืออันประณีต รวมถึงผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกต่างๆ อาทิ พวงมาลัยวันแม่ทำจากไผ่ย้อมสี, ตุ๊กตา, ถุงหอมรักแม่ และ บาล์มกลิ่นทับทิม เป็นต้น ฯลฯ ซึ่งเหมาะจะมอบเป็นของขวัญแทนใจในช่วงเทศกาลวันแม่ โดยจะจำหน่ายระหว่างวันที่ 10- 31 สิงหาคมศกนี้ ณ บริเวณหน้าลิฟท์แก้ว ชั้น 1 สยามพารากอน อีกด้วย

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 1765 สายด่วนวัฒนธรรม