แบรนด์ “มูจิ” (MUJI) เปิดตัว “มูจิ วัน แบงค็อก” (MUJI One Bangkok) อย่างยิ่งใหญ่

แบรนด์ “มูจิ” (MUJI) เปิดตัว “มูจิ วัน แบงค็อก” (MUJI One Bangkok) อย่างยิ่งใหญ่ กับคอนเซ็ปต์สโตร์แห่งใหม่ที่มีขนาดพื้นที่ให้บริการใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ครบครันด้วยสินค้าหลากหลายที่ตอบโจทย์ทุกมิติการใช้ชีวิตของคนเมือง

พร้อมให้เหล่าคนเมืองได้เติมเต็มไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตด้วยสินค้าที่ครบครันจากแบรนด์ “มูจิ” (MUJI) ล่าสุด อกิฮิโร่ คาโมการิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดงานเปิดตัวคอนเซ็ปต์สโตร์สาขาล่าสุดอย่างยิ่งใหญ่กับ “มูจิ วัน แบงค็อก” (MUJI One Bangkok) ที่จะมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบเต็มรูปแบบด้วยสินค้าและบริการที่ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ของการใช้ชีวิตทั้งสินค้าใหม่และไอเทมยอดนิยมกว่า 5,000 รายการ ที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับญี่ปุ่น ในราคาที่จับต้องได้ พร้อมกันนี้ยังได้รับเกียรติจากนักแสดงชื่อดังอย่าง อาเล็ก-ธีรเดช เมธาวรายุทธ และ โบว์-เมลดา สุศรี มาร่วมนำเสนอไลฟ์สไตล์ผ่านสินค้าจากแบรนด์ “มูจิ” (MUJI) ในครั้งนี้ด้วย

โดยภายในงานได้รับเกียรติจากเหล่าเซเลบริตี้แฟนคลับแบรนด์ตบเท้าเข้าร่วมกันอย่างคับคั่ง อาทิ อภินรา ศรีกาญจนา, วาริธร กันท์ไพบูลย์, อัชฌา เจริญรัศมีเกียรติ และอีกมากมาย

“มูจิ” (MUJI) ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น ในปี ค.ศ. 1980  ซึ่งโดดเด่นด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานจากประเทศญี่ปุ่น โดยจะมีทั้งของใช้ในครัวเรือน เครื่องแต่งกาย และอาหาร โดยต้นกำเนิดของแบรนด์คือความสมเหตุสมผลของกระบวนการผลิต พร้อมทั้งการมุ่งเน้นไปที่การสรรค์สร้างผลิตภัณฑ์ที่เรียบง่าย ราคาจับต้องได้ และมีคุณภาพผ่านหลักการ 3 ข้อ ได้แก่ การเลือกสรรวัสดุ, การปรับปรุงพัฒนากระบวนการต่าง ๆ และการสร้างบรรจุภัณฑ์ที่เรียบง่าย ดังนั้น “มูจิ” (MUJI) จึงเป็นแบรนด์สินค้าในชีวิตประจำวันที่มีราคาย่อมเยาจับต้องได้

อกิฮิโร่ คาโมการิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงานเปิดตัวคอนเซ็ปต์สโตร์สาขาล่าสุดนี้ว่า “การเปิดตัว มูจิ วัน แบงค็อก (MUJI One Bangkok) นับเป็นสาขาที่ 38 ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นของบริษัทที่ต้องการยกระดับรูปแบบร้านค้าให้เป็นไลฟ์สไตล์สโตร์ที่จะเติมเต็มประสบการณ์ช้อปปิ้งของเหล่าคนเมืองให้เป็นมากกว่าการจับจ่ายใช้สอย โดยที่นี่จะเป็นสถานที่ในการใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างครบครันในทุกมิติ ด้วยขนาดพื้นที่กว่า 3,040 ตารางเมตร ซึ่งถือว่าเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดของไทยในปัจจุบัน มีสินค้าที่หลากหลายครบทุกประเภทซึ่งไม่ต่างจากสาขาหลักในประเทศญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่เราได้มีการใช้ KOL อย่าง 2 นักแสดงชื่อดังของเมืองไทย ได้แก่ คุณอาเล็ก-ธีรเดช เมธาวรายุทธ และคุณโบว์-เมลดา สุศรี ร่วมนำเสนอไลฟ์สไตล์ผ่านแบรนด์มูจิ (MUJI) เพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มผู้บริโภคทุกกลุ่มอีกด้วย”

โดยความโดดเด่นของ “มูจิ วัน แบงค็อก” (MUJI One Bangkok) คือที่ที่สามารถช้อปสินค้ามูจิได้อย่างครบครันและเต็มรูปแบบ ที่นี่จะรวบรวมทั้งสินค้าใหม่และสินค้ายอดนิยมได้ที่นี่ที่เดียว ซึ่งประกอบไปด้วย โซนเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย (Garments) ที่มีทั้งเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายสำหรับทุกเพศทุกวัย ดีไซน์เรียบง่าย มีการเลือกใช้วัสดุคุณภาพดี พร้อมการตัดเย็บที่พิถีพิถัน และในคอลเลกชั่นออทั่ม/วินเทอร์ 2024 (Autumn/Winter 2024) นี้ แฟนๆมูจิจะได้พบกับเสื้อผ้ากันหนาวหลากหลายสีสันและมีการใช้แมททีเรียลที่หลากหลายในดีไซน์สุดทันสมัย อาทิ Fleece, Double Knit, Washable Knit Merino Wool และขนเป็ด Lightweight Down พร้อม Winter Accessories  นอกจากนี้ยังมี MUJI LABO (มูจิ ลาโบ) คอลเลกชั่น ที่เป็นมากกว่าเครื่องแต่งกาย โดยสะท้อนทั้งแนวคิด ไลฟ์สไตล์ และรสนิยมของผู้สวมใส่ ผ่านงานดีไซน์สุดประณีต ด้วยคำนิยาม “งานฝีมือสุดประณีตผสานการออกแบบที่สร้างสรรค์” โดยคอลเลกชั่น MUJI Labo Autumn / Winter 2024 ชูคุณสมบัติเด่นจากวัสดุธรรมชาติ พร้อมดีไซน์ที่สวยคลาสสิกจากงานฝีมือสุดพิถีพิถัน อาทิ เสื้อโค้ทและเสื้อเสวตเตอร์ผ้าวูลแคชเมียร์ เสื้อโค้ทยาวขนเป็ด เสื้อเชิ้ต เสื้อเบลาส์ และอีกมากมายและภายในโซนยังมีสินค้า กระเป๋า รองเท้า หมวก และเครื่องประดับ (Bags & Shoes & Accessories) อีกมากมาย ถัดมาที่โซนเครื่องใช้ในบ้านและเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน ที่มีเฟอร์นิเจอร์ โชว์รูม (Furniture Showroom) หรือบ้านมูจิตัวอย่างให้เลือกสรรได้อย่างง่ายดาย พร้อมทั้งรวบรวมสินค้าจำเป็นสำหรับห้องนอน, ห้องน้ำ, ห้องครัว, ห้องนั่งเล่น, อุปกรณ์ทำความสะอาด, กล่องเอนกประสงค์จัดระเบียบบ้าน รวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าและเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านที่โดดเด่นด้วยฟังก์ชันและดีไซน์ที่เรียบง่าย และเปิดตัวสินค้าใหม่ประจำซีซั่น อาทิ โซฟาเป่าลม (Inflatable Air Sofa), ซีรีย์เฟอร์นิเจอร์เหล็ก (Steel Pipe Series) ดีไซน์เรียบหรู ทันสมัย และกลุ่มเครื่องนอนหลากหลายวัสดุให้เลือก เช่น Flannel หรือ Soybean Fiber  นอกจากนี้ยังมีกลุ่มสินค้าในช่วงเทศกาลที่สามารถซื้อเป็นของขวัญมอบให้แก่คนพิเศษ อย่างในเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ที่ใกล้เข้ามาถึงนี้ จะมีผลิตภัณฑ์เครื่องหอม, หมอนอิงโซฟาลวดลายน่ารัก (Soft Multi Cushion) พร้อมกันนี้ยังมีการ์ดอวยพร ของตกแต่งในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ให้ได้เลือกสรรอีกมากมาย ต่อมาที่โซนผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม (Health & Beauty) ที่มีทั้งผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า, ผิวกาย และเส้นผม รวมไปถึงอุปกรณ์แต่งหน้า, เครื่องสำอาง และเครื่องหอมอะโรม่าหลากหลายกลิ่น ที่โดดเด่นในเรื่องของส่วนผสมที่สกัดจากธรรมชาติ ปราศจากสารเคมี ส่วนโซนขนมและอาหารสำเร็จรูปจาก MUJI ความพิเศษของสาขานี้คือ นับเป็นครั้งแรกที่จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์สินค้าขนมและอาหารแปรรูปที่จะผลิตในประเทศไทย โดยได้รับการพัฒนาและควบคุมการผลิตโดย MUJI Global Standard ในทุกขั้นตอน เช่น ขนมคางกุ้งทอดกรอบ 6 รสชาติ และผลไม้เคลือบช็อกโกแลตแสนอร่อย และเพื่อเอาใจเหลาคนชอบขนมญี่ปุ่น สาขานี้ได้คัดสรรขนมและอาหารญี่ปุ่นนำเข้ามาจากทั่วภูมิภาคจากประเทศญี่ปุ่น โดยมีไฮไลท์เมนูอย่าง ราเมนหลากรสชาติที่เป็นราเมนขึ้นชื่อในแต่ละภูมิภาคจากประเทศญี่ปุ่น  นอกจากนี้ยังมีขนม MUJI ยอดนิยมให้เลือกสรรมากกว่า 100 รายการ รวมเอาไว้ที่นี่ที่เดียว นอกจากนี้ยังมีโซนอุปกรณ์เครื่องเขียนและสำนักงาน หนึ่งในประเภทสินค้ายอดนิยมของมูจิ และโซนอุปกรณ์สำหรับการเดินทาง  ที่มีอุปกรณ์ของใช้สำหรับเหล่านักเดินทางที่รวบรวมมาไว้ที่นี่ รวมถึงสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย

อริญา พันธุมโกมล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท มูจิ รีเทล (ประเทศไทย) จำกัด

เพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์ให้ครบครัน “มูจิ วัน แบงค็อก” (MUJI One Bangkok) ยังจัดโซนเอ็กซ์คลูซีฟ (Exclusice Zone)  ประกอบด้วย โซน Grab & Go ที่มีคอนเซ็ปต์แนวร้านสะดวกซื้อแบบบริการตนเอง (Self Service) ที่จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 07.00 น. ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชาวออฟฟิศ ที่ให้บริการทั้ง เครื่องดื่มแบบพร้อมดื่ม (Beverage) อาทิ เมนู คราฟต์โซดา (Craft Soda), กาแฟสกัดเย็น (Cold Brew), กาแฟอเมริกาโน่ (Americano), เครื่องดื่มโซดากลิ่นผลไม้ (Fruit Soda) และ น้าผลไม้สกัดเย็นแบบสดใหม่ (Juice Cold Press) ถัดมาที่ เมนูอาหารท่านง่าย (Light Meal) อาทิ  ข้าวเหนียวหมูปิ้ง, ข้าวปั้นโอนิกิริ (Onigiri) และชุดเบ็นโตะ (Bento) ต่อมาที่ เมนูขนมปัง (Bread) อาทิ คอปเปะปัง (Koppepan) และขนมปังหลากหลายไส้สไตล์ญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีไอศกรีม (Ice-Cream) แบบถ้วยที่มีให้ลิ้มลองกว่า 15 รสชาติ โดยจะมีรสชาติพิเศษ 6 รสชาติ ที่มีจำหน่ายที่นี่ที่เดียว ได้แก่  ป๊อปคอร์น (Popcorn), ซอล์ทเท็ดคาราเมล (Salted Caramel), ซีซอล์ท (Sea Salt), สตรอว์เบอร์รี ซอร์เบต์ (Strawberry Sorbet), แพชชั่นโยเกิร์ต (Passion Yogurt) และดาร์กช็อกโกแลต (Dark Chocolate) ถัดมาที่ โซน Green & Outdoor Goods ที่รวบรวมสินค้าต้นไม้, อุปกรณ์ตกแต่งสวน, โต๊ะและเก้าอี้แบบเอาท์ดอร์ที่มีดีไซน์และวัสดุที่หลากหลายให้ได้เลือกสรร ต่อมาที่ โซน PET Products จำหน่ายสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น ชามข้าว, เบาะสัตว์เลี้ยงดีไซน์ต่างๆ และอีกมากมาย

นอกจากนี้ “มูจิ” (MUJI) ยังร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน (Local Community Collaboration) เพื่อเสริมสร้างความยั่งยืน (Sustainability) โดย “มูจิ วัน แบงค็อก” (MUJI One Bangkok) จะจัดกิจกรรม Community Market ตลาดนัดมูจิ มีทั้งหมด 8 ร้าน เพื่อให้ร้านค้าท้องถิ่นได้เข้ามาจำหน่ายสินค้าประเภทงานศิลปะ งานคราฟท์ แฮนด์เมด และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นอื่นๆ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ร้านค้ารายย่อย และสานต่อในแนวคิดของการเป็นแบรนด์ที่ยั่งยืน (Sustainable Brand) โดยจะจัดขึ้นในเฉพาะช่วง Grand Opening ไปจนถึงวันที่ 1 ธันวาคม 2567 นี้ ถัดมาที่อีกหนึ่งความน่าสนใจกับ Refill Station คือการจำหน่ายสินค้าจากแบรนด์ Normal Refill ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแบบรีฟิลที่ผลิตจากธรรมชาติ ด้วยส่วนผสมหลักจากผลมะคำดีควายที่เก็บเกี่ยวตามฤดูกาลจากต้นมะคำดีควายที่เติบโตตามธรรมชาติในหุบเขา โดยชาวปกาเกอะญอ อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับพืชท้องถิ่นและช่วยสร้างรายได้กลับคืนสู่ชุมชน ต่อมาที่ ReMUJI คือการนำสินค้าเสื้อผ้าจากคอลเลกชั่นเก่ามาย้อมครามเพื่อเป็นการลดขยะและให้ชีวิตใหม่กับเสื้อผ้า และอีกหนึ่งความพิเศษคือ Local Products ที่จะจำหน่ายเฉพาะ “มูจิ วัน แบงค็อก” (MUJI One Bangkok) ซึ่งเป็นสินค้าที่ทางมูจิประเทศไทยได้ร่วมพัฒนาสินค้ากับผู้ประกอบการท้องถิ่น โดยทางมูจิเข้าไปควบคุมดูแลในส่วนของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การออกแบบ รวมไปถึงการควบคุมคุณภาพให้ได้มาตรฐานสากล ซึ่งเป็นการผสานความเรียบง่ายที่เปี่ยมเสน่ห์ ตามแนวคิดของแบรนด์ ซึ่งสินค้าที่จะมีวางขายที่สาขานี้คือผลิตภัณฑ์เซรามิกจาก 2 แบรนด์ที่มาจากจังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ InClay Studio และ Charm-learn Studio

นอกจากนั้นยังมีบริการสุดพิเศษที่มีเฉพาะสาขานี้เท่านั้นคือบริการ Embroidery Service หรือบริการปักผ้า ที่สามารถนำสินค้าของมูจิ (MUJI) ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หมวก กระเป๋า ถุงเท้า สนีกเกอร์ มาปักตัวอักษร หรือลวดลายการ์ตูนที่มีให้เลือกกว่า 200 ลาย และมีลายพิเศษเฉพาะที่ MUJI One Bangkok และ Screen-Printing Service บริการพิมพ์ลายสกรีนลงบนสินค้ามูจิ (MUJI) (เฉพาะเสื้อผ้าและกระเป๋าผ้าเท่านั้น) เพื่อสร้างความประทับใจและเพิ่มคุณค่าต่อจิตใจของลูกค้า โดยลูกค้าสามารถนำลายที่ตัวเองออกแบบหรือชื่นชอบมาใช้บริการปักหรือพิมพ์ลายสกรีนได้อีกด้วยและเนื่องในโอกาสเปิดตัวสาขาล่าสุดของ “มูจิ วัน แบงค็อก” (MUJI One Bangkok) จะมีการดีไซน์ลวดลายพิเศษขึ้นมาด้วยการ Collaborate กับ Young Thai illustrator 3 ท่าน คือ ReenP, Atelier Pakawan และ Fahsuwaree

อีกหนึ่งความพิเศษสำหรับในช่วงเปิดตัวสาขา “มูจิ วันแบงค็อก” (MUJI One Bangkok) แห่งนี้จะมีสินค้าสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่จะมาในรูปแบบ กาชาปอง (Gashapon) ที่จำหน่ายเป็นครั้งแรกที่นี่ที่เดียว โดยจะเป็นกาชาปองสินค้าพวงกุญแจมูจิขนาดจิ๋วสุดน่ารัก ที่ให้ทุกท่านได้ร่วมสนุกในราคาเพียงหยอดละ 299 บาท เป็นการเอาใจเหล่านักสะสมได้ร่วมลุ้นสนุกกัน ซึ่งสินค้ากาชาปองนี้จะมีจำนวนกำจัดอีกด้วย

ด้านเหล่าเซเลบริตี้และนักแสดงชื่อดังยังได้ร่วมเผยเคล็ดลับการเลือกสินค้ามูจิที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของเหล่าคนเมือง เริ่มที่เวิร์คกิ้งวูแมน อภินรา ศรีกาญจนา เล่าว่า “เราเคยเรียนที่ญี่ปุ่นเลยรู้สึกคุ้นเคยกับแบรนด์มูจิเป็นอย่างดี ซึ่งสินค้ามูจินั้นเป็นสินค้าที่สามารถใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันและยังโดดเด่นในเรื่องของดีไซน์ที่เรียบง่ายและมีคุณภาพมาตรฐานจากญี่ปุ่น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์วัยทำงานอย่างเรามาก อย่างอุปกรณ์ทำงานก็มีให้เลือกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นปากกา สมุดโน้ต กล่องเอกสารและอื่นๆอีกมากมาย สำหรับสาขาล่าสุดของมูจิที่ One Bangkok นี้เป็นสาขาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไทยและยังรวมสินค้าและบริการที่ครบทุกหมวดหมู่ รวมไปถึงอาหารและขนมที่หลากหลาย เราว่าเหมาะกับเหล่าคนเมืองที่ต้องการเลือกซื้อของใช้ในชีวิตประจำวัน ที่มาที่นี่แล้วได้ทุกอย่างครบจบในที่เดียว”

ต่อมาที่คุณแม่คนสวย วาริธร กันท์ไพบูลย์ เผยว่า “มูจิเป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเราและครอบครัวเป็นอย่างมาก สิ่งที่เราชอบคือสินค้าที่มีคุณภาพสูง ดีไซน์ที่เรียบง่ายและราคาที่เข้าถึงได้ ซึ่งมีทั้งสินค้าผู้ชาย ผู้หญิง รวมถึงสินค้าเด็ก เหมาะแก่การพาครอบครัวมาเดินช้อปปิ้งใช้เวลาร่วมกัน อย่างสินค้าที่เรารู้สึกสนใจเหมาะแก่การใช้สอยและตกแต่งในบ้าน คือโซฟาเป่าลม ด้วยดีไซน์ที่มินิมอล สามารถใช้งานได้จริงและยังวางตกแต่งในบ้านร่วมกับเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ได้อย่างลงตัว และมูจิสาขา One Bangkok นี้ก็เป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่เหมาะมากกับเหล่าคนเมืองที่จะได้เข้ามาช้อปสินค้ามากมายที่รวมเอาไว้ที่นี่”

ถัดมาที่สาวแฟชั่นนิสต้า อัชฌา เจริญรัศมีเกียรติ เล่าว่า “เราเป็นคนที่ชื่นชอบแต่งตัวมิกซ์แอนด์แมทช์เสริมลุคด้วยเสื้อผ้าและแอคเซสเซอรี่ที่หลากหลาย ส่วนตัวมองว่าเสื้อผ้าแบรนด์มูจิ มีความโดดเด่นในเรื่องของดีไซน์ที่เรียบง่าย ใส่ได้ทุกวัน หากอยากลองปรับลุคให้ดูน่าสนใจก็สามารถที่จะเลือกหยิบเสื้อผ้าชิ้นเบสิก อย่างเสื้อคาร์ดิแกนสีเอิร์ธโทนมามิกซ์แอนด์แมทช์กับกางเกงขาสั้นโทนสีขาวหรือดำ รวมถึงเลือกเครื่องประดับโทนสีทองมาใส่ก็จะได้ลุคที่ดูโดดเด่นมากขึ้น ซึ่งมูจิสาขา One Bangkok นี้เป็นสาขาที่ตอบโจทย์เหล่านักช้อปที่ชื่นชอบแฟชั่นมาก เพราะมีสินค้าที่หลากหลายให้ได้เลือกช้อป”

ปิดท้ายที่คู่รักนักแสดงชื่อดังอย่าง อาเล็ก-ธีรเดช เมธาวรายุทธ และ โบว์-เมลดา สุศรี เผยว่า “มูจิสาขาล่าสุดที่ One Bangkok มีความพิเศษคือเป็นมูจิคอนเซ็ปต์สโตร์รูปแบบใหม่ที่รวมสินค้าสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันไว้ครบทุกประเภท ด้วยคุณภาพมาตรฐานจากญี่ปุ่น ในราคาที่จับต้องได้ นอกจากนี้ยังมีบริการใหม่ๆ และสินค้าคอลเลกชั่นสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่มีจำหน่ายที่นี่ที่เดียว โดยส่วนตัวมองว่าสินค้าของมูจิช่วยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตได้ในทุกๆวัน ซึ่งเราชอบสินค้าพวกเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ในบ้าน เพราะมีฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์และตัววัสดุของสินค้าก็มีคุณภาพ แข็งแรง ทนทาน ซึ่งบ้านของเรา ไม่ว่าจะห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือห้องน้ำ คือต้องมีของมูจิไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง รู้สึกเลยว่าสินค้ามูจิเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราจริงๆ” ด้านสาว โบว์-เมลดา สุศรี เสริมว่า “แบรนด์มูจิเป็นแบรนด์ที่โดดเด่นด้วยคุณภาพและดีไซน์ที่เรียบง่าย ส่วนตัวชอบชอบเสื้อผ้าของมูจิมากๆ เพราะมีดีไซน์เบสิก ในโทนสีแบบธรรมชาติ สวมใส่แล้วดูสวยมีสไตล์ และด้วยความที่เราทำงานทุกวัน ในบางวันอาจจะมีเปลี่ยนชุดหลายลุค ซึ่งเราก็สามารถหยิบเอาเสื้อหรือกางเกงเบสิกของมูจิมาแมทช์กับไอเทมอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย แนะนำว่าทุกคนควรมีเสื้อผ้ามูจิติดตู้ไว้ เพราะนอกจากจะสวมใส่ได้ทุกโอกาสแล้ว ยังใส่สบายมากๆ อีกด้วย”

โปรโมชั่นสุดพิเศษในช่วง Grand Opening “มูจิ วัน แบงค็อก” (MUJI One Bangkok)

• รับ Limited Jute Bag ลายพิเศษ MUJI One Bangkok เมื่อซื้อสินค้ามูจิครบ 2,000 บาท* พร้อมร่วมลุ้นรับตั๋วเครื่องบินไปกลับกรุงเทพฯ-โตเกียว จาก All Nippon Airlines , กระเป๋าเดินทาง MUJI และสินค้ามูจิอีกมากมาย เฉพาะในวันที่ 1 พ.ย. 2567 ถึง 10 พ.ย. 2567 เท่านั้น
• และยังมี สินค้าราคาพิเศษ พร้อมโปรโมชั่นลดราคาสินค้ายอดนิยมหลายรายการ
• และสำหรับลูกค้าใหม่ที่แอดไลน์ (LINE) MUJI Thailand รับ E-Cash Coupon ส่วนลด 300 บาท* สำหรับซื้อสินค้าขั้นต่ำ 3,000 บาท* ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2567 ถึง 30 พ.ย. 2567
• เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม Facebook: MUJI Thailand, Instagram: MUJI_Thailand, LINE: @MUJIThailand

สัมผัสประสบการณ์ช้อปปิ้งรูปแบบใหม่ได้ที่คอนเซ็ปต์สโตร์สาขาล่าสุดกับ “มูจิ วัน แบงค็อก” (MUJI One Bangkok) ชั้น B1 โซน Parade โครงการ “วัน แบงค็อก” (One Bangkok) หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม Facebook: MUJI Thailand และ Instagram: MUJI_Thailand / LINE Official Account : @MUJIThailand