Other

ซาอุเดีย กรุ๊ป สั่งซื้อเครื่องบินตระกูล เอ320นีโอ จำนวน 105 ลำ

Spread the love

ซาอุเดีย กรุ๊ป สั่งซื้อเครื่องบินตระกูล เอ320นีโอ จำนวน 105 ลำ เพื่อสนับสนุนเป้าหมายด้านการบินของซาอุดีอาระเบีย

ซาอุเดีย กรุ๊ป (Saudia Group) ตัวแทนของสายการบินเซาเดีย (Saudia Airlines) สายการบินประจำชาติของราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และสายการบิน ฟลายอะดีล (flyadeal) สายการบินราคาประหยัดในกลุ่มธุรกิจ ได้ลงนามในคำสั่งซื้อเครื่องบินตระกูล เอ320นีโอ (A320neo) เพิ่มเติมจำนวน 105 ลำ โดยคำสั่งซื้อประกอบด้วยเครื่องบิน A320neo จำนวน 12 ลำ และ เอ321นีโอ (A321neo) จำนวน 93 ลำ ทำให้ยอดการสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสที่รอการส่งมอบทั้งหมดของ Saudia Group สำหรับเครื่องบินในตระกูล A320neo เพิ่มขึ้นรวมเป็นจำนวน 144 ลำ

ข้อตกลงดังกล่าวได้แถลงขึ้นที่งาน Future Aviation Forum ในเมืองริยาด โดยมี ฯพณฯ ซาเลห์ บิน นัสเซอร์ อัลจัสเซอร์ (H.E. Saleh bin Nasser AlJasser) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและบริการลอจิสติกส์แห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ฯพณฯ อิบรอฮีม อัลโอมาร์ (H.E. Engr. Ibrahim Al-Omar) ผู้อำนวยการใหญ่ Saudia Group และ นายเบอนัวต์ เดอ แซงเต็กซูว์เปรี (Benoît de Saint-Exupéry) รองประธานฝ่ายขายธุรกิจเครื่องบินพาณิชย์ของแอร์บัส ร่วมในงานครั้งนี้

ฯพณฯ อิบรอฮีม อัลโอมาร์ ผู้อำนวยการใหญ่ Saudia Group กล่าวว่า ซาอุดีอาระเบียได้ตั้งเป้าหมายในการดำเนินงานที่ท้าทายเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้โดยสาร เรากำลังเพิ่มเที่ยวบินและความจุจำนวนที่นั่งผู้โดยสารครอบคลุมจุดหมายปลายทางกว่า 100 แห่งที่กระจายอยู่ทั่ว ทวีปของเรา และมีแผนขยายการดำเนินงานเพิ่มเติม ความก้าวหน้าที่เกิดขึ้นภายใต้วิสัยทัศน์ซาอุดีอาระเบีย 2566 (Saudi Vision 2030) ได้กำลังดึงดูดนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการ และผู้แสวงบุญเพิ่มมากขึ้นในแต่ละปี ทั้งหมดนี้ผลักดันให้เราตัดสินใจสรุปข้อตกลงที่สำคัญครั้งนี้ ซึ่งจะสร้างโอกาสในการจ้างงาน เพิ่มความน่าสนใจ และสนับสนุนเศรษฐกิจของประเทศ”

นายเบอนัวต์ เดอ แซงเต็กซูว์เปรี รองประธานฝ่ายขายธุรกิจเครื่องบินพาณิชย์ของแอร์บัส กล่าวว่า “เครื่องบินตระกูล A320neo ที่สั่งซื้อเพิ่มเติมขึ้นมานี้จะมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนวิสัยทัศน์ Saudi Vision 2030 ที่ท้าทายของซาอุดีอาระเบีย” และเสริมอีกว่า “เครื่องบินเหล่านี้จะช่วยเสริมกลยุทธ์ของ Saudia Group ในการพัฒนาขีดความสามารถด้านการบินของราชอาณาจักร ขณะเดียวกันก็ทำให้ทั้งสองสายการบินในเครือได้รับประโยชน์จากประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมของเครื่องบิน A320neo ทั้งในด้านประสิทธิภาพที่ล้ำหน้า ความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจที่เหนือกว่า ความสะดวกสบายของผู้โดยสารในระดับสูงสุด ตลอดจนการใช้เชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ลดลง”

ซาอุดีอาระเบียได้สร้างโอกาสด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินในระดับโลกให้เติบโตอย่างรวดเร็วจากแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย โดยกลยุทธ์ดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมากกว่า 150 ล้านคน ภายในปี 2573 การสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสครั้งนี้จึงถือเป็นแรงผลักดันสำคัญเพื่อการบรรลุเป้าหมายของราชอาณาจักรและก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวชั้นนำของโลก

ปัจจุบันเครื่องบินตระกูล A320 เป็นเครื่องบินทางเดินเดี่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก โดยได้รับคำสั่งซื้อมากกว่า 18,000 ลำ จากลูกค้ากว่า 300 รายในทุกตลาดทั่วโลก โดบยเครื่องบิน A321neo เป็นสมาชิกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในตระกูล A320neo ของแอร์บัส ซึ่งมีพิสัยบินและประสิทธิภาพที่เหนือชั้น เครื่องบินรุ่นนี้ติดตั้งเครื่องยนต์รุ่นใหม่และปลายปีกชาร์คเล็ท (Sharklet) ทำให้ระดับเสียงรบกวนลดลงถึง 50 เปอร์เซ็นต์ และประหยัดการใช้เชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างน้อย 20 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเครื่องบินทางเดินเดี่ยวรุ่นก่อนหน้า ขณะเดียวกันก็เพิ่มความสะดวกสบายสูงสุดให้กับผู้โดยสารด้วยห้องโดยสารทางเดินเดี่ยวที่ขนาดกว้างที่สุดบนน่านฟ้า โดยแอร์บัสได้ออกแบบเครื่องบินทั้งหมดในตระกูล A320 ให้สามารถใช้เชื้อเพลิงการบินที่ยั่งยืน (SAF) ได้สูงสุดถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมของแอร์บัสที่ตั้งเป้าให้เครื่องบินทุกลำสามารถปฏิบัติการด้วย SAF ได้ 100% ภายในปี 2573


Spread the love